fbpx

กลยุทธ์การลงทุนใน Metaverse

640 360 jai

แม้ว่า Metaverse จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Microsoft และ Meta ได้ใช้เงินไปกับโครงการนี้แล้วหลายพันล้าน รวมถึงสตาร์ทอัพอย่าง Roblox ก็ได้ระดมทุนเป็นจำนวนมากเช่นกัน บริษัทเหล่านี้และบริษัท ‘ผู้สร้าง’ อื่น ๆ กำลังแข่งขันกันเพื่อกำหนดรูปแบบของอุตสาหกรรม โดยการสร้างเงื่อนไขที่เอื้อให้กับความสำเร็จของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขากำลังกำหนดที่มาของมูลค่า สร้างสมดุลของอำนาจระหว่างผู้ให้บริการ และออกแบบวิธีการสำหรับบริษัทแบบดั้งเดิมที่หวังจะสร้างรายได้จาก Metaverse จะได้รับประโยชน์

เพื่อการตัดสินใจในการลงทุนอย่างถูกต้อง พวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจถึงวิสัยทัศน์ของโมเดลต่าง ๆ ที่กำลังถูกสร้างขึ้น รวมถึงความสอดคล้องของรูปแบบเหล่านั้นกับกลยุทธ์ของบริษัทของตน

ควบคุมอย่างสมบูรณ์ (Complete Control Model)

ในวิสัยทัศน์นี้จะมี Metaverse เพียงไม่กี่รายซึ่งให้บริการเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะทาง เช่น การเล่นเกมและการทำงาน การใช้งานฮาร์ดแวร์ระดับสูงและแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการจะเป็นปัจจัยที่สร้างความแตกต่าง ตัวอย่างเช่น Microsoft ออกแบบเครื่องมือ AR เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับแพลตฟอร์ม Mesh หรือ Magic Leap สตาร์ทอัพด้าน AR/VR สร้างแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถวางแผนการผ่าตัดในสภาพแวดล้อม 3 มิติที่สมจริงได้

ผู้สร้างกำลังเดิมพันว่าคุณภาพและการปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานจะเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันการนำ metaverse ไปใช้ และความจำเป็นของการลงทุนในระดับสูงจะช่วยให้พวกเขาสามารถเป็นผู้กำหนดราคาในทุก ๆ ส่วนของ metaverse ด้วยรูปแบบธุรกิจที่คล้ายคลึงกับที่ใช้กันอยู่แล้วในปัจจุบัน เช่น บริการ SaaS ของ Microsoft

ควบคุมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Control Model)

ในวิสัยทัศน์นี้จะมี Metaverse แบบ all-in-one เพียงไม่กี่รายซึ่งให้บริการหลากหลายรูปแบบ ฮาร์ดแวร์ของบริษัทจะเป็นจุดเริ่มต้น แต่การสร้างคอนเท้นต์นั้นมาจากภายนอกด้วยระบบนิเวศแบบเปิดของผู้ให้บริการ ตัวอย่างเช่น Meta กำลังพึ่งพาผู้ใช้และบริษัทต่าง ๆ เป็นส่วนสำคัญในการผลิตคอนเท้นต์ และตัวเองเป็นผู้สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการพัฒนาคอนเท้นต์ให้สมจริง ในมุมมองของ Meta การลงทุนที่จำเป็นในการสร้างฮาร์ดแวร์ VR ที่ล้ำสมัย (แว่นตาที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท) และผลของเครือข่าย (จากฐานผู้ผลิตคอนเท้นต์จำนวนมาก) จะช่วยให้มั่นใจได้ถึงการผูกขาดโดยธรรมชาติ

ผู้สร้างประเภทนี้จะต้องการใช้ประโยชน์จากโมเดลธุรกิจที่เน้นความสนใจ เช่น โฆษณา และสร้างรายได้จากธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของตน Meta ประกาศว่ากำลังวางแผนที่จะลดธุรกรรมทั้งหมดที่ทำบนแพลตฟอร์ม metaverse รวมถึงสิทธิบัตรที่เป็นไปได้ซึ่งแสดงความตั้งใจที่จะสร้างรายได้จากโฆษณา metaverse

 

ควบคุมคอนเท้นต์ (Content Control Model)

ในวิสัยทัศน์นี้ผู้สร้างจะควบคุมแพลตฟอร์มและคอนเท้นต์ แต่พึ่งพาผู้ให้บริการด้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งอาจจะเรียกไม่ได้ว่าเป็นการสร้างอุตสาหกรรมหรือแพลตฟอร์มใหม่ แต่เปรียบเสมือนการสร้างรายได้จากส่วนขยายเช่นเดียวกับในอุตสาหกรรมเกม ด้วยบริการด้านคอนเท้นต์และประสบการณ์ที่ถูกเลือกมาพร้อมกับรูปแบบธุรกิจใหม่ที่ใช้บล็อกเชน หากวิสัยทัศน์นี้ขยายขนาดขึ้นจะมี Metaverse หลายรายอยู่ร่วมกันและผู้สร้างจำเป็นต้องแข่งขันกันด้วยการสร้างคอนเท้นต์

ตัวอย่างเช่น Axie Infinity, Epic Games, Sorare และ The Sandbox กำลังสร้าง metaverse ที่อิงกับประสบการณ์หรือความบันเทิงเสมือนจริง บริษัทเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้งานเทคโนโลยีระดับสูง เช่น VR เพื่อสร้างความแตกต่าง หรือพึ่งพาเครือข่ายขนาดใหญ่ของผู้สร้างคอนเท้นต์ แต่พวกเขากำลังสร้างประสบการณ์ของผู้ใช้ขึ้นเองโดยตรงและทำการปรับปรุงเทคโนโลยีพื้นฐานเพื่อเข้าถึงผู้ใช้ในวงกว้างขึ้น

ควบคุมแพลตฟอร์ม (Platform Control Model)

ในวิสัยทัศน์นี้จะมี Metaverse รายการอยู่ร่วมกันและเชื่อมโยงถึงกัน ซอฟต์แวร์เป็นจุดเริ่มต้นเดียวที่เป็นกรรมสิทธิ์ โดยผู้สร้างจำเป็นต้องส่งเสริมความรู้สึกของชุมชนและสร้างเกราะป้องกันเพื่อรักษาฐานผู้ใช้ โดยคาดว่าจะมีการสร้างมูลค่าผ่านรูปแบบธุรกิจที่หลากหลาย เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม โฆษณา หรือการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัล

ตัวอย่างแพลตฟอร์มเสมือน เช่น Decentraland และ Roblox ส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีทั่วไปหรือโอเพ่นซอร์ส เช่น อุปกรณ์ที่มีหน้าจอหรือบล็อกเชน โดยพวกเขามีการตรวจสอบหรือสร้างคอนเท้นต์อย่างจำกัด และจะทำหน้าที่หลักเพียงเป็นผู้จัดการแพลตฟอร์มเท่านั้น

 

วางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์

บริษัทแบบดั้งเดิมต้องทำความเข้าใจว่าวิสัยทัศน์แต่ละแบบสอดคล้องกับจุดแข็งและการวางตำแหน่งของตนอย่างไร บริษัทแบบ B2B ที่เป็นผู้นำและมีความาสามารถด้านเทคโนโลยีที่จำเป็นในการสร้างบริการระดับพรีเมียมจะได้รับประโยชน์จาก Metaverse ระดับสูงที่เป็นแบบเฉพาะทางซึ่งทำงานในระบบนิเวศแบบปิด (รูปแบบการควบคุมอย่างสมบูรณ์) ตัวอย่างเช่น John Deere ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถโต้ตอบกับผลิตภัณฑ์ของตนผ่านแอป AR สามารถร่วมมือกับผู้สร้างเช่น Magic Leap หรือ Microsoft เพื่อขยายขนาดบริการในปัจจุบันและร่วมกันพัฒนาการใช้งานสำหรับตลาดอุปกรณ์อุตสาหกรรม

บริษัทแบบ B2C ที่มีแบรนด์และตำแหน่งที่แข็งแกร่งสามารถเจรจากับผู้สร้าง Metaverse ที่เข้าได้ง่ายขึ้นและมีการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก โดยบางส่วนอาจได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงเครื่องมือขั้นสูงเพื่อสร้างประสบการณ์ของตนเอง (รูปแบบการควบคุมโครงสร้างพื้นฐาน) ตัวอย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า Printemps ของฝรั่งเศสได้สร้าง Mini-Metaverse ที่มีแบบจำลอง 3 มิติ ของร้านค้าชั้นนำซึ่งลูกค้าสามารถซื้อสินค้าและเรียกดูคอลเลกชันงานศิลปะ NFT ได้ โดยแบรนด์อาจปรับแต่งและขยายขนาดประสบการณ์นี้ในMetaverses เช่น Meta Horizon

บริษัทแบบ B2C อื่น ๆ อาจได้รับประโยชน์จากประสบการณ์นอกร้านที่สร้างขึ้นผ่านความร่วมมือกับผู้สร้าง (รูปแบบการควบคุมเนื้อหา) ตัวอย่างเช่น Marvel โปรโมตภาพยนตร์ผ่านความร่วมมือกับ Fortnite ซึ่งมีการสร้างตัวละคร สกิน สถานที่ และประสบการณ์ที่สมบูรณ์ในเกมโดยอิงเนื้อหาจากจักรวาล Marvel

บริษัทที่ไม่สามารถพึ่งพาแบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จักหรือการวางตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่ง แต่สามารถเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้ารายใหม่ได้อย่างรวดเร็ว หรือบริษัทที่ต้องการรักษาคอนเท้นต์ดั้งเดิมของตนไว้สามารถร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Roblox (รูปแบบการควบคุมแพลตฟอร์ม) ซึ่งรูปแบบนี้มีอุปสรรคในการเข้าถึงน้อยที่สุด

Leave a Reply

Your email address will not be published.