ขับเคลื่อนประเทศไทยผ่านการลงทุนในพลังงานสู่ความยั่งยืน (ตอนที่ 1)

โซลาร์รูฟท็อปที่ใหญ่ที่สุดในโลกและโครงการริเริ่มเพื่อสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ที่กำลังทยอยสร้างสถิติใหม่ตอกย้ำชื่อเสียงของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านไฟฟ้าพลังงานสะอาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

บนหลังคาพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 18 สนามฟุตบอล ใจกลางระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของประเทศไทย โครงการพลังงานทดแทนที่ใหญ่เป็นสถิติโลกกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยนักลงทุนจากต่างประเทศ Kansai Electric Power Co. บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น กำลังดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาแบบสแตนด์อโลนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้านบนของโรงงานผลิตยาง Falken ประสิทธิภาพสูงสำหรับการส่งออกไปยังตลาดยุโรป 

เมื่อรวมกับระบบผลิตพลังงานร่วมจากก๊าซและพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตเพิ่มเติมโดยชีวมวลจากต้นยางส่วนเกิน หลังคาที่มีจำนวนโซลาร์เซลล์ 40,000 แผง ขนาด 100,000 ตารางเมตร จะมีกำลังการผลิตรวมในปี 2025 ที่ 22 MW ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 38,000 ตัน และช่วยให้บริษัทเจ้าของโรงงานอย่าง Sumitomo Rubber Industries Ltd. สามารถดำเนินกิจการทั้งหมดได้ด้วยพลังงานทดแทนเพียงอย่างเดียว 

สำหรับบริษัทที่เกี่ยวข้องและผู้เชี่ยวชาญอิสระทั่วไป หลังคาที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 135 กิโลเมตร นั้นถือเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของ 10 ประเทศในกลุ่มอาเซียน ภูมิภาคที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และผู้บริโภคกว่า 660 ล้านคน 

คุณ Katsuhisa Yamamoto กรรมการผู้จัดการของ Kansai Electric Power ประเทศไทยกล่าวถึงการสนับสนุนจากรัฐบาลว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งถ้าพูดถึงในแง่ของการส่งเสริมการลงทุนนั้นประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ทำได้ดีที่สุดในภูมิภาคอาเซียน 

ความก้าวหน้ามีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่รัฐบาลไทยประสบความสำเร็จในการออกมาตรการอุดหนุน การลดหย่อนภาษี และสิ่งจูงใจอื่น ๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับชาติที่เรียกว่าเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) 

ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2023 คำขอต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จำนวน 186 จากทั้งหมด 195 รายการ สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้านั้นเป็นคำขอที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน มีบริษัทมากมายที่กำลังมองหาโอกาสด้านพลังงานสะอาดในประเทศไทยกระจายอยู่ทั่วอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่บริษัทสาธารณูปโภคด้านพลังงานของญี่ปุ่นและเกาหลี ไปจนถึงผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนและยุโรป หรือแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ อย่าง Amazon Web Services และ Western Digital Corp. 

Shuji Hashizume ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของธนาคารพัฒนาเอเชีย ผู้ให้บริการกู้ยืมเงินระดับภูมิภาคซึ่งให้ทุนสนับสนุนในโครงการพลังงานสีเขียวหลายโครงการทั่วเอเชีย เชื่อว่านักลงทุนเหล่านั้นมาถูกที่แล้ว โดยได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นวาระที่ใหญ่ที่สุดของโลกในขณะนี้ และเอเชียก็เป็นศูนย์กลางของการปล่อยก๊าซคาร์บอน ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้นำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้น่าจะเป็นผู้นำของโครงการต่าง ๆ ในอาเซียนได้และจะมีความสำคัญเป็นอย่างมาก 

ตัวอย่างที่อาจเห็นได้ชัดเจนที่สุดของการปฏิวัติพลังงานสะอาดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยคือ ประเทศที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และรถบรรทุกแบบเครื่องยนต์สันดาปชั้นนำของโลกมายาวนานได้กลายเป็นทั้งศูนย์กลางทางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนครั้งใหญ่ของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เช่น BYD Co., Great Wall Motor และ SAIC ของจีน Mercedes Benz จากเยอรมนี และ Foxconn Technology Group น้องใหม่จากไต้หวันที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Apple iPhone 

นักลงทุนต่างชาตินั้นไม่ใช่ผู้เล่นหลักเพียงกลุ่มเดียวที่เป็นหัวใจสำคัญของการทำสงครามกับภาวะโลกร้อนของไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) องค์กรที่ใหญ่ที่สุดของประเทศซึ่งติดอันดับ Fortune 500 ซึ่งยังคงเป็นที่รู้จักนอกประเทศไทยในฐานะบริษัทน้ำมันและก๊าซ กำลังทุ่มเงินมหาศาลกับการลงทุนในพลังงานสะอาด ด้วยการร่วมทุนด้าน EV มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ กับ Foxconn และ 100 ล้านดอลลาร์ กับผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Contemporary Amperex Technology ของจีน 

ในขณะเดียวกันผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่อีกรายหนึ่งของรัฐ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) กำลังเปลี่ยนสภาพอ่างเก็บน้ำหลักของประเทศด้วยการติดตั้งโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำเพื่อสร้างแหล่งพลังงานระบบคู่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ผลิตไฟฟ้าจากทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานน้ำ 

ภาคเอกชนของไทยก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กันกัน นำโดยบริษัทอย่าง Energy Absolute ผู้ผลิตรถบัสและเรือไฟฟ้า รวมถึง B.Grimm Power ผู้ผลิตไฟฟ้า เป็นต้น โดยการมีส่วนร่วมของ Energy Absolute นั้นเห็นได้ชัดเจนบนท้องถนนและทางน้ำใจกลางกรุงเทพ ฯ ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการขนส่งสาธารณะมีความสะอาดและเงียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเสียงฮัมเบา ๆ ของรถโดยสารและเรือไฟฟ้ามาเข้าแทนที่เสียงดังน่ารำคาญและควันดำของระบบดีเซลก่อนหน้านี้