ปรับปรุงวัฒนธรรมการทำงานระยะไกลด้วยการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในที่ทำงานเป็นกระบวนการที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างรวดเร็วซึ่งพลิกโฉมธุรกิจไปมากมายอย่างที่เราทราบกันดี ไม่วาจะเป็นเรื่องสถานที่ทำงาน กลยุทธ์ทางธุรกิจ หรือวัฒนธรรมการทำงาน เพื่อรับมือกับมันคุณต้องคิดว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นความสามารถเชิงกลยุทธ์ที่จะยกระดับบริษัท/องค์กรไปสู่อีกระดับด้วยการเปลี่ยนมุมมองการทำงานของคุณ แล้วการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลคืออะไร และจะรวมมันเข้ากับวัฒนธรรมการทำงานของคุณได้อย่างไร

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) หมายถึงการใช้งานเทคโนโลยีเพื่อยกระดับธุรกิจและปรับปรุงการทำงานของพนักงาน เว็บไซต์ได้เปลี่ยนวิธีการรับรู้และทำสิ่งต่าง ๆ ของเราไปหลายเรื่อง ถ่ายโอนวัฒนธรรมการทำงานจากการตอกบัตรเข้าและออกไปสู่วิธีที่สะดวกขึ้น

การเปลี่ยนไปทำงานจากระยะไกลทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเรื่องสภาพแวดล้อมของการทำงาน ทำให้การเชื่อมต่อและการร่วมมือกันกลายเป็นกระบวนการที่ง่ายขึ้น

ประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

การทำงานแบบผสมผสานเป็นศาสตร์ของการจัดการผสานรวมสถานที่ที่เหมือนกับสำนักงานเข้ากับบ้าน ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านโดยยังคงประสิทธิภาพไว้ได้ ก่อนหน้านี้การทำงานออนไลน์มาพร้อมกับอุปสรรคเล็กน้อย เช่น การสื่อสาร การประชุม และการทำงานร่วมกัน โชคดีที่ปัญหาดังกล่าวสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการใช้เทคโนโลยี

• ต้นทุนที่ลดลง: ใช้ดิจิทัลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ สนับสนุนการทำงานของพนักงานและต้นทุนการผลิต รวมถึงให้บริการลูกค้าอย่างเป็นมิตรยิ่งขึ้น คุณสามารถลดการใช้พลังงาน เลือกตัวเลือกที่ดีกว่า และรวบรวมข้อมูลได้ง่ายขึ้น
• ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: โลกกำลังเดินหน้าสู่พื้นที่สีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลูกค้าให้ความสนใจมากขึ้นกับบริษัทที่มีนโยบายสอดคล้องกับแนวคิดของตน ต้นทุนของกระบวนการที่ใช้กระดาษต่อสิ่งแวดล้อมนั้นสูงกว่าที่หลาย ๆ คนตระหนัก แต่ข้อมูลออนไลน์และคลาวด์สามารถช่วยจัดการความเสียหายนี้ได้
• การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ: แอปพลิเคชันอย่าง Zoom และ Google Meet ได้เปลี่ยนวิธีจัดการประชุมไปอย่างมาก มันช่วยลดความจำเป็นในการแสดงตัวทางกายภาพหรือขึ้นเครื่องบินเพื่อไปเข้าประชุม การส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีก็ช่วยเร่งการแสดงความคิดเห็นและการแลกเปลี่ยนข้อมูล

พัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ: การมีแผนธุรกิจที่มั่นคงเป็นสิ่งสำคัญ แต่การสร้างผลิตภัณฑ์ การขาย และการให้บริการลูกค้าเป็นปัจจัยที่สร้างความแตกต่างในทุกธุรกิจ

เพิ่มศักยภาพให้กับพนักงานระยะไกล

• ทั้งหมดเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อ วัฒนธรรมการทำงานในปัจจุบันต้องอาศัยการรักษาความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม การจัดเก็บข้อมูล การซื้อเซิร์ฟเวอร์ และการรักษาความปลอดภัยกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่มีคลาวด์พนักงานของคุณก็จะรู้สึกปลอดภัย เพราะพวกเขารู้ว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้อย่างดี ระบบคลาวด์สามารถใช้สำหรับการสำรองข้อมูล การกู้คืนจากอุบัติเหต อีเมล การพัฒนาซอฟต์แวร์ การวิเคราะห์ข้อมูล และเว็บแอปพลิเคชันที่ใช้ติดต่อกับลูกค้า
• ระบบอัตโนมัติสามารถช่วยแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับงานได้ทุกประเภท ส่งเสริมประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกในการทำงาน เช่น ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องจักรที่ต้องคอยควบคุมเพื่อตรวจหาข้อผิดพลาด หรือมีการรายงานสรุปผลโดยอัตโนมัติ
• พนักงานใช้เวลาน้อยลงในการคอยติดตามการผลิต ทำงานเอกสาร และทำแบบสำรวจ เมื่อเป็นระบบอัตโนมัติแล้วพนักงานสามารถเปลี่ยนไปให้ความสนใจกับงานที่สำคัญกว่า โดยทิ้งงานประจำที่ซ้ำซากไว้ให้เป็นหน้าที่ของเครื่องจักร

ให้ความยืดหยุ่นแก่พนักงานระยะไกลมากขึ้นด้วยเครื่องมือดิจิทัล

จากการที่บ้านกลายเป็นสถานที่ทำงาน การเช็คเวลาเข้างานและระยะเวลาการทำงานแทบจะทำไม่ได้เลย จนเมื่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมการทำงาน

การทำสลิปเงินเดือนออนไลน์ การจัดการวันลาและการขาดงาน การจัดการเวลาและการเข้างาน การจัดการเอกสารดิจิทัลของพนักงาน การจัดการเงินเดือนและทรัพยากรบุคคล การรายงานอัตโนมัติ การรายงานข้อมูลธุรกิจ และแพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูล ทั้งหมดนี้เป็นโซลูชันที่เป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

การทำงานระยะไกลส่งเสริมแนวคิดแบบดิจิทัล

การพัฒนาทักษะใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล พนักงานควรสามารถใช้เครื่องมือบนเว็บเพื่อสร้างงานที่ดีขึ้นได้

นักจิตวิทยาให้คำนิยาม ”แนวคิด” ว่าหมายถึงวิธีคิดและปรับตัวเข้ากับโลกซึ่งจะเป็นตัวกำหนดวิธีการรับรู้ ความรู้สึก และพฤติกรรมของเรา

อย่างไรก็ตามแนวคิดแบบดิจิทัลเป็นแนวทางที่พนักงานพัฒนาขึ้นได้ด้วยการใช้เทคโนโลยี การทำงานแบบดิจิทัลไม่ได้ถูกมองว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาอีกต่อไป แต่เป็นการเพิ่มคุณค่าที่สำคัญให้กับกระบวนการทำงานประจำวันและวัฒนธรรมการทำงานโดยรวม

รับผิดชอบส่วนบุคคลมากขึ้นแทนการควบคุมจัดการ

เทคโนโลยีดิจิทัลได้ปูทางไปสู่การนำแนวคิดใหม่ ๆ มาใช้ ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ตอนนี้ผู้บริหารสามารถที่จะอนุญาตให้พนักงานมีส่วนร่วมในบทบาทที่ใหญ่ขึ้น มันจะช่วยให้พนักงานสามารถปลดปล่อยศักยภาพของตนได้อย่างเต็มที่พร้อมกันกับกระตุ้นให้เกิดการอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา

ผลกระทบของเทคโนโลยีนั้นมีมากมายมหาศาล และการเตรียมการเพื่อรองรับเรื่องดังกล่าวอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพของการทำงานของบริษัท มีประโยชน์มากมายที่รออยู่ และขึ้นอยู่กับคุณที่จะตัดสินใจว่าเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยช่วยเหลือหรือคุณจะถูกคู่แข่งทิ้งห่างออกไป

สิ่งเหล่านี้เป็นมากกว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มันเกี่ยวพันกับความสะดวกของผู้ที่อุทิศชีวิตเพื่อความสำเร็จของบริษัท เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของคุณและเผยแพร่แนวคิดนี้ การลงทุนในเทคโนโลยีจะช่วยคุณได้มากในระยะยาว