แม้ว่ารูปแบบการเรียนรู้ของมนุษย์เราจะก้าวหน้ามาไกลจากตำราเก่า ๆ และห้องเรียนที่น่าเบื่อ แต่เส้นทางของการฝึกอบรมองค์กรยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของแรงงานยุคใหม่ เราจะปรับเปลี่ยนการฝึกอบรมให้น่าสนใจและมีประสิทธิภาพสำหรับทุกคนได้อย่างไร
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลและอัลกอริทึม เป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการตอบสนองต่อรูปแบบการเรียนรู้ ความต้องการ และความชอบส่วนบุคคลของพนักงาน พร้อมกับให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม ระบบที่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เช่น ประสิทธิภาพการทำงานและประวัติการเรียนรู้ และใช้ข้อมูลดังกล่าวในการปรับแต่งโปรแกรมการฝึกอบรมให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล
แม้ว่าความน่าสนใจของสาขาที่กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็วนี้จะดูเหมือนเป็นเรื่องของอนาคต แต่ในตอนนี้เราสามารถใช้มันช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาไปในแบบของตนเอง ด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับทักษะของพวกเขา การผสมผสานระหว่างการฝึกอบรมองค์กรและ AI จะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต
จากการฝึกอบรมองค์กรแบบดั้งเดิมสู่สมัยใหม่
ภูมิทัศน์การฝึกอบรมองค์กรได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรศาสตร์และวิธีที่ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหา (ไม่ว่าจะเป็นทางการศึกษาหรืออื่น ๆ) ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคม ปัจจุบันเรากำลังมองเห็นโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้นเรื่อย ๆ องค์กรต่าง ๆ มีวิธีการปรับแต่งโปรแกรมการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่พวกเขาต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เดิมทีการฝึกอบรมองค์กรมักจะอาศัยการเรียนการสอนแบบตัวต่อตัวในห้องเรียน มีการบรรยายและใช้เอกสารประกอบ โดยเน้นการถ่ายทอดข้อมูลโดยตรงจากผู้สอนไปยังผู้เรียนในสภาพแวดล้อมที่เป็นระบบ อย่างไรก็ตามปัญหาจะเกิดขึ้นทันทีที่เราพยายามนำวิธีการล้าสมัยเหล่านี้มาใช้ในยุคปัจจุบัน วิธีการนี้จำเป็นต้องมีการเข้าร่วมด้วยตนเองเป็นหลัก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับทีมงานยุคใหม่ที่ทำงานระยะไกลและกระจายตัวอยู่ทั่วโลก
แม้ว่าเราจะปฏิเสธประสิทธิภาพของโปรแกรมเหล่านี้ในบางแง่มุมไม่ได้ แต่ในภูมิทัศน์ทางธุรกิจสมัยใหม่ ความสามารถในการเข้าถึงและการปรับขนาดของแนวทางเก่านี้ ทำให้พวกมันไม่สามารถนำไปใช้ได้ในหลาย ๆ สถานการณ์ อีกทั้งวิธีการเหล่านี้ส่วนใหญ่มีลักษณะแบบเหมารวม โดยเน้นที่การนำเสนอเนื้อหาเดียวกันให้กับพนักงานทุกคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนำไปสู่ระดับการมีส่วนร่วมและการจดจำที่แตกต่างกัน
ในทางตรงกันข้าม วิธีการฝึกอบรมองค์กรสมัยใหม่ได้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้ โดยมีวิธีการเรียนรู้ที่สามารถปรับขนาดและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น แพลตฟอร์มออนไลน์ โมดูล e-Learning และการจำลองสถานการณ์เสมือนจริง (VR) กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป ช่วยให้พนักงานสามารถเข้าร่วมในการฝึกอบรมได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่หรือปัญหาด้านเวลา
การเปลี่ยนผ่านไปสู่เครื่องมือการเรียนรู้ดิจิทัลนี้ช่วยให้พนักงานเข้าถึงทรัพยากรการฝึกอบรมได้ง่ายขึ้น และช่วยให้องค์กรสามารถจัดโปรแกรมการฝึกอบรมให้กับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น พร้อมกับลดความซับซ้อนด้านโลจิสติกส์ลง
การมาถึงของการปรับแต่งเฉพาะบุคคล
การเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคลแตกต่างจากวิธีการแบบเดิมที่ใช้หลักสูตรเดียวสำหรับทุกคน โดยปรับเปลี่ยนเส้นทางและเนื้อหาการเรียนรู้ให้เข้ากับความต้องการ ความชอบ และจังหวะการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล วิธีการนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด มันช่วยให้พนักงานสามารถโฟกัสไปที่ส่วนที่ต้องการพัฒนา ข้ามสิ่งที่รู้อยู่แล้ว และเรียนรู้เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับบทบาทและความมุ่งหวังในอาชีพของพวกเขามากที่สุด
ผลลัพธ์คือบุคลากรที่มีแรงจูงใจและมีส่วนร่วมมากขึ้น โดยมีการฝึกอบรมที่สอดคล้องโดยตรงกับเป้าหมายส่วนบุคคลและองค์กร นอกเหนือจากการยกระดับประสบการณ์ของผู้เรียนแล้ว การเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคลยังนำไปสู่การจดจำข้อมูล การนำทักษะไปใช้ในสถานที่ทำงาน และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมภายในองค์กรที่ดีขึ้น
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะด้านปัญญาประดิษฐ์ ทำให้การเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคลในสภาพแวดล้อมขององค์กรมีความเป็นไปได้และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในปี 2023 มีองค์กรมากถึง 77% รายงานว่าได้นำการเรียนรู้ออนไลน์มาใช้ให้พนักงานได้เรียนรู้ทักษะที่ต้องการและพัฒนาการทำงานของตนเอง
แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับผู้เรียนรายบุคคล โดยไม่จำเป็นต้องมีทีมนักวิเคราะห์จำนวนมากภายในองค์กร ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ สไตล์การเรียนรู้ และรูปแบบการมีส่วนร่วม การวิเคราะห์นี้ทำให้สามารถสร้างเส้นทางการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคลที่ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา โดยนำเสนอเนื้อหาและความท้าทายที่เหมาะสมกับแต่ละผู้เรียน
นอกจากนี้ปัญญาประดิษฐ์ยังอำนวยความสะดวกด้านเวลาในการเรียนรู้ โดยสามารถให้ข้อมูลแก่พนักงานในช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการพอดี เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ ทำให้องค์กรสามารถนำเสนอโซลูชันการฝึกอบรมที่ตรงกับเป้าหมาย มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับความคาดหวังในอาชีพของแต่ละบุคคลและวัตถุประสงค์ขององค์กรได้มากยิ่งขึ้น
บทบาทของ AI ในการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล
การเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคลในการฝึกอบรมองค์กรนั้นไม่ได้เริ่มต้นมาจาก AI ประโยชน์ของมันเป็นที่ชัดเจนมาระยะหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้ววิธีการเหล่านี้ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลและมีความซับซ้อนสูงเกินไป AI ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเนื่องจากมันช่วยกำจัดข้อเสียสองประการนี้ และยกระดับศักยภาพไปพร้อม ๆ กัน
เทคโนโลยี AI เช่น machine learning (ML) และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ natural language processing (NLP) เป็นตัวหลักของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดย ML สามารถวิเคราะห์ข้อมูลผู้เรียน ระบุรูปแบบและความชอบ และใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การเรียนรู้ ส่วน NLP สามารถสร้างผู้ช่วยในการเรียนรู้ที่เข้าใจและตอบสนองต่อภาษาของมนุษย์ สนับสนุนและให้คำแนะนำแบบเฉพาะบุคคลเหมือนเป็นติวเตอร์ตัวจริงของคุณ
เทคโนโลยีเหล่านี้เมื่อใช้ร่วมกันจะทำให้เกิดความเข้าใจในรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายมากขึ้น ช่วยให้สามารถปรับเนื้อหาและวิธีการฝึกอบรมให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถแนะนำหลักสูตรเฉพาะ ปรับระดับความยากของเนื้อหาแบบเรียลไทม์ ระบุจุดแข็งและจุดอ่อน หรือแม้แต่แนะนำกิจกรรมการเรียนรู้ตามระดับการมีส่วนร่วมและความก้าวหน้าของผู้เรียน
Leave a Reply