แนวทางการจ้างพนักงานระยะไกลให้ประสบความสำเร็จ

ผู้หางานจำนวนมากกำลังมองหาตำแหน่งงานที่ยอมให้พวกเขาสามารถทำงานระยะไกลได้ ข้อมูลปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าเกือบครึ่งหนึ่งของคนทำงานชื่นชอบการทำงานระยะไกลเต็มรูปแบบ และมากว่า 40% ชอบการทำงานแบบผสมผสานที่มีงานระยะไกลเป็นหลัก (มีสำนักงานให้พนักงานใช้ แต่การเข้าสำนักงานเป็นทางเลือก)

เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ที่ชัดเจนสำหรับการดึงดูดบุคลากร สวัสดิการ ความผูกพัน และการรักษาพนักงานรวมถึงประสิทธิภาพของการทำงาน ตามที่มีงานวิจัยใหม่เปิดเผย นายจ้างจำนวนมากขึ้นกำลังประกาศรับสมัครงานที่เสนอการทำงานระยะไกลร่วมด้วย อย่างไรก็ตามมีข้อพิจารณาสำคัญที่ต้องทำก่อนที่จะคัดเลือกผู้สมัครและจ้างงานตำแหน่งเหล่านี้

การทำงานจากที่บ้านต้องการทักษะและความสามารถที่แตกต่างไปจากการทำงานในสำนักงานเล็กน้อย พนักงานแต่ละคนจะชอบและเหมาะกับประเภทของงานระยะไกลที่แตกต่างกัน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเสนองานแบบไฮบริดหรืองานระยะไกลเต็มรูปแบบ นี่คือแนวทางสำหรับการดึงดูดและจ้างบุคลากรที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้

1. ทำข้อเสนอให้ชัดเจน

การทำงานระยะไกลนั้นมีความยืดหยุ่นในด้านสถานที่ทำงานหลายระดับ ตั้งแต่การทำงานแบบไฮบริดที่พนักงานใช้เวลา 1 ถึง 4 วันต่อสัปดาห์ทำงานจากบ้าน และใช้เวลาที่เหลือในสำนักงาน การทำงานที่เน้นระยะไกลเป็นหลัก ซึ่งอนุญาตให้การเข้าสำนักงานเป็นทางเลือกและอาจมีการนัดพบปะกันทุกเดือน ไปจนถึงการทำงานระยะไกลเต็มรูปแบบ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสำนักงาน

บริษัทต้องระบุให้ชัดเจนว่ารูปแบบการทำงานเป็นอย่างไร เพื่อหาพนักงานที่เหมาะสมที่สุดกับรูปแบบการทำงานเฉพาะของตัวเอง อธิบายรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าพนักงานจะสามารถทำงานจากที่บ้านได้บ่อยแค่ไหน หากมีการกำหนดวันที่แน่นอนควรระบุไว้ด้วย ความโปร่งใสตั้งแต่เริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญ

2. ประกาศให้โลกรู้

การซ่อนรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานที่มีความยืดหยุ่นไว้ในคำอธิบายงานไม่เพียงพอที่จะดึงดูดผู้หางานจำนวนมากที่กำลังมองหาตำแหน่งงานที่มาพร้อมกับการทำงานระยะไกล ประชาสัมพันธ์ข้อเสนอของคุณบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย และสนับสนุนให้พนักงานปัจจุบันโพสต์และพูดถึงประโยชน์ที่พวกเขาได้รับจากการทำงานระยะไกลด้วย เสียงจากภายนอกก็สามารถช่วยสนับสนุนคุณในฐานะนายจ้างที่มีความยืดหยุ่นได้ โดยมีหลากหลายแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณเข้าถึงผู้หางานที่ต้องการความยืดหยุ่นจำนวนมาก

3. มองหาประสบการณ์การทำงานระยะไกล

ผู้สมัครงานไม่จำเป็นต้องเคยทำงานระยะไกลมาก่อนเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต แต่ประสบการณ์การทำงานระยะไกลก่อนหน้านี้สามารถเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพในการทำงานได้ ประวัติการทำงานอาจไม่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเสมอไป ลองตรวจสอบว่านายจ้างก่อนหน้าที่ระบุไว้เสนอความยืดหยุ่นด้านสถานที่ทำงานหรือไม่ และเป็นแบบไหน อย่าละเลยประสบการณ์การเรียนระยะไกลหรือหลักสูตรฝึกอบรมด้วย

ในระหว่างการสัมภาษณ์ ให้ถามคำถามที่อิงกับสถานการณ์เพื่อประเมินประสบการณ์และความสำเร็จในการทำงานระยะไกลก่อนหน้านี้ ตัวอย่างเช่น ให้อธิบายโครงการที่เคยเป็นผู้นำในอดีตที่ต้องร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานระยะไกล และผลลัพธ์ที่ได้ เป็นต้น

4. ทดสอบทักษะการทำงานระยะไกล

พนักงานที่ทำงานจากที่บ้านต้องสามารถร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานระยะไกล (อาจใช้ซอฟต์แวร์ เช่น Slack หรือ Microsoft Teams) ทำงานอย่างอิสระโดยไม่ต้องมีการสนับสนุนแบบพบหน้ากัน และรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว สิ่งเหล่านี้ต้องใช้ทักษะเฉพาะ

ความคิดริเริ่ม ทักษะการสื่อสาร และทักษะดิจิทัลที่ดีมีความสำคัญ เช่นเดียวกับความสามารถในการกำหนดขอบเขตระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว ผู้สมัครที่แสดงให้เห็นว่ามีความมุ่งมั่น ปรับตัวได้ และแสดงทักษะการแก้ปัญหาที่ดีมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการทำงานระยะไกลมากกว่า แม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานแบบนี้มาก่อน

การทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อประเมินทักษะเฉพาะสามารถช่วยทีมสรรหาบุคลากรในการพิจารณา ว่าผู้สมัครมีสิ่งที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมการทำงานที่แตกต่างกันหรือไม่ ในขณะที่การสัมภาษณ์ระยะไกลสามารถบ่งบอกถึงทักษะการสื่อสารของผู้สมัครได้เป็นอย่างดี

คุณยังสามารถทดสอบทักษะการทำงานระยะไกลของผู้เข้าสัมภาษณ์โดยถามคำถามที่อิงกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจริง ซึ่งไม่จำเป็นต้องอิงกับประสบการณ์ก่อนหน้านี้เช่น “ขณะทำงานจากบ้านเต็มเวลา คุณพบว่าตัวเองต้องให้ข้อเสนอแนะเดิม ๆ กับลูกทีมโดยตรงบ่อยครั้ง และต้องพูดคุยเรื่องนี้กับพวกเขา คุณจะจัดการกับการสนทนานี้และให้ข้อเสนอแนะที่แตกต่างออกไปได้อย่างไร?”

5. เข้าใจความชอบในการทำงานของแต่ละบุคคล

ด้วยการประกาศจ้างงานที่ชัดเจนและการประเมินผู้สมัครสำหรับทักษะและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง บริษัทสามารถจ้างพนักงานที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพแวดล้อมการทำงานของตนได้ แต่ยังคงมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำความเข้าใจความถึงต้องการและความชอบของแต่ละคน เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มักจะมีความหลากหลายเกินกว่าจะจัดเข้าหมวดหมู่การทำงานแบบไฮบริดหรือระยะไกลเต็มรูปแบบได้อย่างง่าย ๆ

เมื่อเข้าใจอย่างชัดเจนว่าผู้สมัครต้องการทำงานอย่างไรและทำไม บริษัทจะสามารถสนับสนุนพนักงานใหม่ให้ประสบความสำเร็จได้ดีขึ้น ซึ่งมันอาจจะเป็นในรูปแบบที่ไม่เคยคิดถึงก่อน ดังนั้นอย่าลืมถามคำถามนี้ในการสัมภาษณ์สำหรับผู้สมัครที่รู้สึกสบายใจที่จะตอบ