fbpx

3 วิธีที่องค์กรของคุณสามารถใช้เทคโนโลยีช่วยในการสรรหา รักษา และพัฒนาพนักงาน

1024 683 Content Writer

3 วิธีที่องค์กรของคุณสามารถใช้เทคโนโลยีช่วยในการสรรหา รักษา และพัฒนาพนักงาน

 

ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ กำลังปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานแบบผสมผสาน พร้อมกับการขาดแคลนพนักงานที่มีความสามารถที่ยังคงดำเนินต่อไป การดึงดูด การมีส่วนร่วม และการพัฒนาพนักงานที่ยอดเยี่ยมจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย

ต่อไปนี้คือ 3 วิธีที่เทคโนโลยีสามารถช่วยคุณได้

 

สร้างกระบวนการสรรหาแบบองค์รวมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถ

ปัจจุบันพนักงานมีการพิจารณาถึงคุณค่าขององค์กรมากขึ้นเมื่อต้องตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการทำงานที่ไหน โซเชียลมีเดียสามารถเป็นเครื่องมืออันล้ำค่าสำหรับบริษัทต่าง ๆ ในการแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญและนำเสนอตำแหน่งงานแก่ผู้สมัครที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน โดยองค์กรอาจร่วมมือกับแพลตฟอร์มการหางานเพื่อเข้าถึงผู้คนจำนวนมากที่ถูกเลือกมาเป็นอย่างดี

เครื่องมือสำหรับค้นหาผู้ที่มีความสามารถอาจถูกรวมเข้ากับแพลตฟอร์มการสรรหาบุคลากรที่มีระบบติดตามผู้สมัคร เพื่อให้ข้อมูลทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นการสมัครจนถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์และหลังจากการตัดสินใจถูกเก็บไว้ในในที่เดียว Jane Hoff ผู้อำนวยการฝ่ายบริการทรัพยากรบุคคลของ Crowe บริษัทผู้ให้บริการด้านบัญชี ที่ปรึกษา และเทคโนโลยี กล่าว ด้วยวิธีนี้ผู้รับสมัครสามารถตรวจสอบและจัดการใบสมัครได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้สมัครเองก็สามารถตรวจสอบสถานะของการสมัครรวมถึงสอบถามข้อสงสัยต่าง ๆ ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นกับบริษัทในท้ายที่สุด 

แพลตฟอร์มดังกล่าวสามารถช่วยให้การจัดการพนักงานใหม่จากระยะไกลทำได้ง่ายขึ้นโดยเชื่อมต่อพนักงานเข้ากับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปฐมนิเทศ นอกจากนั้นยังสามารถทำหน้าที่เป็นฐานข้อมูลของผู้สมัครที่ไม่ได้รับการว่าจ้างในงานที่พวกเขาสมัคร แต่อาจเหมาะสมกับตำแหน่งอื่น ๆ “ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม คุณสามารถรักษาการติดต่อกับผู้สมัครที่มีศักยภาพและดำเนินการกับพวกเขาได้อย่างรวดเร็วหากมีโอกาส” Hoff กล่าว

 

ปรับปรุงประสบการณ์ในแต่ละวันให้ดีขึ้นเพื่อรักษาและเชื่อมต่อกับพนักงาน

แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันที่เหมาะสมสามารถช่วยให้พนักงานที่ทำงานระยะไกลรู้สึกเชื่อมต่อกับบริษัทและเพื่อนร่วมงานได้อย่างมาก เครื่องมือการจัดการที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องซึ่งสามารถออกความคิดเห็นและแก้ไขได้แบบเรียลไทม์ จะช่วยให้การทำงานร่วมกันง่ายและสนุกยิ่งขึ้นเมื่อผู้คนไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกันทั้งหมด “การรักษาความสัมพันธ์กับคนของเรา และทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะเชื่อมต่อกับทีม ได้เป็นอย่างดี ช่วยให้เราเข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น และมันสำคัญมาก” Hoff กล่าว

ทรัพยากรดิจิทัลที่สนับสนุนพนักงานในการจัดการกับความรับผิดชอบส่วนบุคคลสามารถช่วยให้ผู้ที่อาจรู้สึกโดดเดี่ยวหรือถูกกดดันจากการทำงานระยะไกลกลับมามีส่วนร่วมอีกครั้ง ตัวอย่างเช่น โซเชียลเน็ตเวิร์คภายในที่พนักงานสามารถแบ่งปันประสบการณ์และสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ รวมถึงศูนย์ช่วยเหลือตนเองและให้บริการข้อมูลสุขภาพออนไลน์ที่นำเสนอการสัมมนา การสร้างแรงบันดาลใจ และโอกาสในการช่วยเหลือชุมชน การสนับสนุนความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานสามารถแสดงให้พนักงานเห็นว่าพวกเขาได้รับความใส่ใจจากนายจ้าง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาพนักงานไว้กับบริษัท

การฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับเครื่องมือที่ช่วยในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ การวิเคราะห์และบรรเทาผลกระทบจากความเสี่ยง รวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้เนื่องจากมีการทำงานนอกสถานที่มากขึ้น สามารถช่วยให้พวกเขารับมือกับประเด็นเหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังเป็นการส่งสัญญาณว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่ยึดมั่นในธรรมาภิบาล “การจัดการความเสี่ยงและการฝึกอบรมพนักงานของเราอย่างเหมาะสมแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อค่านิยมของเราและการเป็นบริษัทที่มีจริยธรรม รวมถึงมีผลอย่างมากต่อการมีส่วนร่วมของพนักงาน” Hoff กล่าว

 

ตระหนักถึงความต้องการที่เปลี่ยนไปเพื่อสนับสนุนการเติบโตของพนักงาน

เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่พนักงานต้องการและรับรู้ถึงสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นปัญหาเร่งด่วน บริษัทสามารถร้องขอและติดตามฟีดแบคโดยใช้เครื่องมือสำรวจพนักงานที่มีการวิเคราะห์ในตัว ด้วยการพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้และสิ่งที่พวกเขาทำอย่างสม่ำเสมอ ผู้จัดการจะสามารถมั่นใจได้ว่าทีมของเขารู้สึกถึงการถูกรับฟัง

การยอมรับถึงแรงกดดันด้านสุขภาพจิตที่เกิดจากการเปลี่ยนไปสู่การทำงานระยะไกลอย่างรวดเร็วนั้นเป็นขั้นตอนหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามีคนคอยรับฟัง บริษัทอาจจัดให้มีแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งพนักงานสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลการช่วยเหลือตนเอง หรือเข้าร่วมการสัมมนาและการแบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อนร่วมงานแบบออนไลน์ เนื่องจากการปฏิสัมพันธ์แบบเห็นหน้ากันสามารถช่วยให้เข้าใจถึงความรู้สึกของพนักงานได้ดีขึ้น โดยผู้จัดการสามารถติดต่อกับพนักงานผ่านเทคโนโลยีวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และควรพูดคุยถึงรายละเอียดให้มากกว่าที่ติดต่อกันผ่านอีเมลหรือแพลตฟอร์มการส่งข้อความของบริษัท

“เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแน่ใจว่าเรากำลังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ และทำการพูดคุยกับผู้คนจริง ๆ แทนที่จะโฟกัสไปที่สิ่งอื่น เช่น งานที่พวกเขาต้องทำ” Hoff กล่าว

แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะแบบออนไลน์ช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรสนับสนุนพวกเขาด้านความก้าวหน้าในอาชีพการงานและสามารถกระตุ้นพนักงานได้ “ระบบการเรียนรู้ที่ดีและการพัฒนาการจัดการที่ช่วยให้พนักงานเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย มอบโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการทำให้ผู้คนมีส่วนร่วม” Hoff กล่าว “ในช่วงของการเกิดโรคระบาด ทุกคนมีโอกาสได้ทบทวนตนเอง พวกเขากำลังมองหาจุดประสงค์ที่มีความหมายมากขึ้นในสิ่งที่พวกเขาทำในแต่ละวัน”

ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ กำลังจัดการกับความไม่แน่นอนในปัจจุบันนั้น ยังมีอีกหลายส่วนที่พวกเขาสามารถควบคุมได้ นั่นคือพนักงานที่พวกเขาจ้างและวิธีการฝึกอบรมและปฏิบัติต่อคนเหล่านั้น การนำโซลูชันทางเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการทำงานเพื่อดึงดูดบุคลากรที่ดีที่สุด ทำให้พวกเขามีส่วนร่วม และช่วยให้พวกเขาเติบโตเป็นวิธีหนึ่งในการวางแผนสำหรับอนาคตที่องค์กรไม่ควรมองข้าม

 

Author

Content Writer

All stories by: Content Writer

Leave a Reply

Your email address will not be published.