fbpx

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Non-Fungible Token (NFT) ตอนที่ 1

800 500 Content Writer

NFT ดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจอย่างมากในปีนี้ ตั้งแต่งานศิลปะและดนตรีไปจนถึงทาโก้และกระดาษชำระ สินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ซื้อขายกันเหมือนกับดอกทิวลิปในศตวรรษที่ 17 บางชิ้นมีราคาสูงถึงหลายล้านดอลลาร์

แต่ NFT นั้นคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่ามันเป็นเพียงฟองสบู่ที่พร้อมจะแตก เช่นเดียวกับความนิยมของหุ้นดอทคอมหรือ Beanie Babies ในขณะที่คนอื่น ๆ เชื่อว่า NFT จะยังอยู่ต่อไปและจะเปลี่ยนแปลงการลงทุนไปตลอดกาล

 

NFT คืออะไร

NFT คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นตัวแทนของวัตถุในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น ศิลปะ ดนตรี ไอเท็มในเกม และวิดีโอ มีการซื้อขายทางออนไลน์ บ่อยครั้งด้วยสกุลเงินดิจิทัล และโดยทั่วไปแล้วจะมีการเข้ารหัสด้วยซอฟต์แวร์พื้นฐานแบบเดียวกันกับสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมาก

แม้ว่าจะเริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2014 แต่ NFT กำลังได้รับการพูดถึงมากในขณะนี้ เนื่องจากเป็นวิธีที่นิยมมากขึ้นในการซื้อและขายงานศิลปะดิจิทัล โดยมีการใช้เงินจำนวนถึง 174 ล้านดอลลาร์ไปกับ NFT ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2017

โดยทั่วไปแล้ว NFT จะมีลักษณะเฉพาะตัวเพียงหนึ่งเดียวและมีรหัสอ้างอิงที่ไม่ซ้ำกัน “โดยพื้นฐานแล้ว NFT ทำให้เกิดความขาดแคลนทางดิจิทัล” Arry Yu ประธานของ Washington Technology Industry Association Cascadia Blockchain Council และกรรมการผู้จัดการของ Yellow Umbrella Ventures กล่าว

สิ่งนี้ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับการสร้างสรรค์ทางดิจิทัลส่วนใหญ่ซึ่งมีอุปทานเกือบไม่สิ้นสุด ตามสมมุติฐานแล้วการลดอุปทานควรเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ดังกล่าวหากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการ

แต่ NFT จำนวนมาก อย่างน้อยก็ในช่วงแรกนี้ เป็นงานสร้างสรรค์ทางดิจิทัลที่มีอยู่แล้วในรูปแบบอื่น เช่น คลิปวิดีโอจากการแข่งขัน NBA หรือ Digital Art ที่มีการรักษาความปลอดภัยแล้วที่เผยแพร่อยู่ในInstagram ขณะนี้

ตัวอย่างเช่น ศิลปินดิจิทัลชื่อดัง Mike Winklemann หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Beeple” ได้สร้างงานรวมภาพที่วาดในแต่ละวันจำนวน 5,000 ภาพ กลายเป็น NFT ที่โด่งดังที่สุดในขณะนี้ “EVERYDAYS: The First 5000 Days” ซึ่งขายที่ Christie’s ได้เป็นสถิติถึง69.3 ล้านดอลลาร์

ทุกคนสามารถดูภาพเดี่ยวแต่ละภาพ หรือแม้แต่ภาพรวมทั้งหมดทางออนไลน์ได้ฟรี แล้วเหตุใดผู้คนจึงยินดีจ่ายเงินเป็นล้าน ๆ เพื่อสิ่งที่พวกเขาสามารถเก็บภาพหน้าจอหรือดาวน์โหลดได้อย่างง่ายดาย

สาเหตุก็เพราะ NFT ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สินต้นฉบับได้ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการรับรองความถูกต้องในตัวที่ทำหน้าที่เป็นหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งนักสะสมนั้นให้ความสำคัญกับ “สิทธิ์ในการโอ้อวดทางดิจิทัล” เกือบจะมากกว่าตัวสินค้าด้วยซ้ำ

 

NFT แตกต่างจาก Cryptocurrency อย่างไร

NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token โดยทั่วไปถูกสร้างขึ้นด้วยโปรแกรมประเภทเดียวกับสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin หรือ Ethereum แต่นั่นคือจุดสิ้นสุดของความคล้ายคลึงกัน

เงินที่จับต้องได้และ Cryptocurrency มีความเป็น “Fungible” ซึ่งหมายความว่าสามารถซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนกันได้ และพวกมันมีมูลค่าเท่ากัน หนึ่งดอลลาร์มีค่าเท่ากับอีกดอลลาร์ หนึ่ง Bitcoin เท่ากับอีกหนึ่ง Bitcoin อื่นเสมอ ความสามารถในการแลกเปลี่ยนของ Crypto ทำให้การทำธุรกรรมบนบล็อคเชนเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้

NFT นั้นต่างออกไป โดยแต่ละอันจะมีลายเซ็นดิจิทัลที่ทำให้ NFT ไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือมีค่าเท่ากับอันอื่นได้ (ดังนั้นจึงถูกเรียกว่า Non-Fungible) ตัวอย่างเช่น คลิป NBA Top Shot หนึ่งคลิปไม่เท่ากับงาน EVERYDAYS เพียงเพราะเป็น NFT ทั้งคู่ (คลิป NBA Top Shot หนึ่งคลิปก็ไม่จำเป็นต้องเท่ากับคลิปอื่น ๆ ของ NBA Top Shot เช่นกัน)

 

NFT ทำงานอย่างไร

NFT นั้นอยู่บน Blockchain ซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภทดิจิทัลสาธารณะที่บันทึกธุรกรรมต่าง ๆ โดยคุณอาจคุ้นเคยกับ Blockchain เนื่องจากเป็นกระบวนการพื้นฐานที่ทำให้ Cryptocurrency ใช้งานได้

กล่าวให้ชัดเจนขึ้นอีกคือ NFT มักถูกเก็บไว้บน Ethereum Blockchain แม้ว่า Blockchain อื่น ๆ จะรองรับด้วยเช่นกัน

NFT ถูกสร้างขึ้นจากวัตถุดิจิทัลซึ่งเป็นตัวแทนของทั้งสิ่งของที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ ได้แก่:

  • งานศิลปะ
  • GIFs
  • วิดีโอและไฮไลท์กีฬา
  • ของสะสม
  • อวตารเสมือนจริงและสกินในวิดีโอเกม
  • รองเท้าผ้าใบ
  • ดนตรี

หรือแม้แต่ Tweet ก็เช่นกัน Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ขาย Tweet แรกของเขาเป็น NFT ด้วยมูลค่ากว่า 2.9 ล้านดอลลาร์

โดยพื้นฐานแล้ว NFT ก็เหมือนกับของสะสมทางกายภาพ แต่เพียงเป็นรูปแบบดิจิทัลเท่านั้น ดังนั้นแทนที่จะได้ภาพสีน้ำมันจริงมาแขวนบนผนัง ผู้ซื้อจะได้ไฟล์ดิจิทัลแทน

พวกเขายังได้รับสิทธิในการเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว โดย NFT สามารถมีเจ้าของได้ครั้งละหนึ่งรายเท่านั้น ซึ่งข้อมูลเฉพาะของ NFT ทำให้ง่ายต่อการยืนยันความเป็นเจ้าของและการโอน Token ระหว่างกัน นอกจากนี้เจ้าของหรือผู้สร้างยังสามารถจัดเก็บข้อมูลเฉพาะไว้ภายในได้ ตัวอย่างเช่น ศิลปินสามารถลงนามในงานศิลปะโดยใส่ลายเซ็นของพวกเขาไว้ใน Metadata ของ NFT

Author

Content Writer

All stories by: Content Writer

Leave a Reply

Your email address will not be published.