พนักงานให้ความสำคัญกับชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นมากกว่าการทำงานระยะไกล

พนักงานให้ความสำคัญกับชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นมากกว่าการทำงานระยะไกล

พนักงานซึ่งมีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้นจากการที่นายจ้างขึ้นค่าแรงและพยายามแย่งชิงตัวเพื่อตำแหน่งงานที่ว่างกล่าวว่า พวกเขาให้ความสำคัญกับตารางเวลาที่ยืดหยุ่นมากกว่าเรื่องเข้าสำนักงานหรือไม่

95% ของผู้ตอบแบบสำรวจต้องการชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น เทียบกับ 78% ที่ต้องการความยืดหยุ่นของสถานที่ ตามรายงานฉบับใหม่จาก Future Forum สมาคมซึ่งมุ่งเน้นการสร้างสรรค์การทำงานในอนาคตที่นำโดย Slack Technologies Inc.

ข้อมูลใหม่ที่รวบรวมในเดือนพฤศจิกายน 2021 จากการสำรวจพนักงานที่มีความรู้มากกว่า 10,000 คน ทำให้เห็นภาพว่าการทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid Working) เป็นที่นิยมมากขนาดไหนในช่วงปีที่สองของการเกิดโรคระบาด หรือการที่พนักงานแทบทุกคนให้ความสำคัญกับตารางเวลาที่ยืดหยุ่นเหนือสิ่งอื่นใด รวมไปถึงความกังวลของนายจ้างที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นธรรมในการเลื่อนตำแหน่งและจ่ายผลตอบแทนเมื่อพนักงานบางคนเข้าสำนักงานขณะที่บางคนทำงานอยู่ที่บ้าน

การสำรวจยังพบว่า 72% ของพนักงานที่ไม่พอใจกับระดับความยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาหรือสถานที่ มีแนวโน้มที่จะมองหาโอกาสใหม่ในปีหน้า

“หากพวกเขาไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ พวกเขาก็พร้อมสำหรับการหางานใหม่” Sheela Subramanian รองประธานของ Future Forum กล่าว

นายจ้างจำนวนมากเริ่มการทำงานแบบผสมผสานและการทำงานระยะไกลในระยะยาวอย่างไม่เต็มใจหลังจากมีการเลื่อนวันกลับไปทำงานในสำนักงานออกไปหลายครั้งหรือพบว่าพนักงานไม่เห็นด้วยกับการกลับไปทำงานที่สำนักงาน นั่นทำให้ผู้บริหารบางคนคิดมีความคิดต่างออกไปเกี่ยวกับการจัดการส่วนบุคคล

Maeve O’Meara ประธานบริหารของ Castlight Health Inc. บริษัทเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพในซานฟรานซิสโก กล่าวว่าพนักงานของเธอควรรวมตัวกันเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น “เราควรมีระเบียบในการรวมกลุ่มกันเพื่อจุดประสงค์ที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกัน การสร้างสรรค์นวัตกรรม การวางแผน หรือเพียงแค่การเข้าสังคม” เธอกล่าว

ข้อตกลงร่วมกันระหว่างสมาชิกในทีมเกี่ยวกับเวลาทำงานกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในทุกอุตสาหกรรม Subramanian กล่าว ตารางเวลาที่ยืดหยุ่นมีแนวโน้มที่จะถูกใช้งานต่อไปหลังจบการระบาด 

การให้ความสำคัญกับจำนวนชั่วโมงของการทำงานนั้นล้าสมัยไปแล้ว เธอกล่าวว่า “เราจำเป็นต้องเปลี่ยนจากการทำงานตลอดเวลาแม้ยามเจ็บป่วยและการเฝ้าติดตามการทำงานเป็นการทำความเข้าใจกับผลลัพธ์ที่ผู้คนกำลังขับเคลื่อนและคุณค่าที่พวกเขาสร้างขึ้น”

การสำรวจของ Future Forum ซึ่งดำเนินการระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายน ยังพบว่าสัดส่วนของคนที่ทำงานแบบผสมผสานซึ่งพวกเขาแบ่งเวลาระหว่างสำนักงานและสถานที่อื่น เพิ่มขึ้น 12% ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เนื่องจากพนักงานเริ่มมีการกลับเข้าสำนักงานเป็นครั้งคราวบ้างแล้ว โดยจำนวนมากกว่า 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าการทำงานแบบผสมผสานเป็นรูปแบบการทำงานที่พวกเขาชื่นชอบมากกว่า

พนักงานหลายคนพบว่าพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้นขณะที่ทำงานจากที่บ้าน และยังมีสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงานที่พวกเขาต้องการ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่คนจำนวนมากมองว่าการทำงานแบบผสมผสานคืออนาคต Brian Kropp หัวหน้าฝ่ายวิจัยทรัพยากรมนุษย์ที่ Gartner บริษัทที่ปรึกษาและวิจัย กล่าว

“สองปีในการทำงานระยะไกลและแบบผสมผสาน เราเริ่มชินกับมัน เรารู้วิธีที่จะทำให้มันประสบผลสำเร็จ พนักงานชอบความยืดหยุ่น บริษัทชอบการประหยัดต้นทุน” เขากล่าว

แม้ว่าบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งจะตัดสินใจให้พนักงานส่วนใหญ่ทำงานระยะไกลร่วมกับทำงานในสำนักงาน แต่การทำงานแบบผสมผสานก็มีข้อเสีย ผู้บริหารมีความกังวลมากขึ้นว่างานแบบผสมผสานอาจเพิ่มความไม่เท่าเทียมกันในหมู่พนักงานทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง ผู้มีบุตร และคนผิวสี ซึ่งเมื่อทำแบบสำรวจกล่าวว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะชอบการจัดการที่ยืดหยุ่นมากกว่า

ในบรรดาผู้บริหารที่ทำการสำรวจ 71% กล่าวว่าพวกเขาทำงานในสำนักงานอย่างน้อยสามวันต่อสัปดาห์ 63% ของพนักงานทั่วไปกล่าวว่าพวกเขาเข้าไปบ่อยพอ ๆ กัน แต่มีการแบ่งแยกที่ชัดเจนระหว่างความชอบของพวกเขา ผู้บริหารที่ทำงานระยะไกลมีแนวโน้มมากกว่าพนักงานทั่วไปที่จะบอกว่าพวกเขาต้องการทำงานในสำนักงานอย่างน้อยสามวันต่อสัปดาห์ ที่ 75% เทียบกับ 37%

สิ่งที่พนักงานต้องการอาจไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับองค์กรในการดำเนินงาน Nicholas Bloom อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดซึ่งทำวิจัยเกี่ยวกับงานระยะไกลกล่าวว่า “จะมีความขัดแย้งกันระหว่างการเลือกกับการทำงานประสานกัน”

ในแบบสำรวจที่เขาจัดทำขึ้นนั้น ผลลัพธ์เบื้องต้นบางส่วนสอดคล้องกับความเห็นของพนักงานจากการสำรวจของ Future Forum เกี่ยวกับความสำคัญของความยืดหยุ่น โดย 75% ของผู้ตอบแบบสำรวจต้องการเลือกวันที่พวกเขาทำงานจากที่บ้านเอง แทนที่จะให้นายจ้างบอกว่าพวกเขาต้องเข้าสำนักงานวันไหน

“บริษัทจะลังเลที่จะบังคับให้พนักงานประสานงานกัน มันจะไม่เป็นไปด้วยดี เพราะในแต่ละวันจะมีพนักงาน 20% อยู่ที่บ้าน” Bloom กล่าว

การประชุมขนาดใหญ่จะทำได้ยากขึ้นหากบางคนอยู่ในสำนักงานและบางคนอยู่ที่อื่น ผู้คนในบริษัทบ่นเกี่ยวกับการขาดความมีชีวิตชีวาในที่ทำงานเมื่อมีคนอยู่เพียงเล็กน้อย การบังคับใช้วิธีการเดียวกันกับพนักงานทุกคนอาจดูมีความเสี่ยงสำหรับผู้บริหาร และในบางครั้งพนักงานจำนวนมากอาจไม่พอใจและพร้อมที่จะหางานใหม่

“บริษัทจะรู้สึกเหมือนกับว่าต้องยอมปล่อยให้พนักงานเป็นคนเลือก” Bloom กล่าว