fbpx

ความเสี่ยงที่นายจ้างควรพิจารณาเมื่อพนักงานใช้ ChatGPT

1024 682 jai

หลังจากที่ ChatGPT เปิดให้มีการใช้งานแบบสาธารณะเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีคำถามมากมายสำหรับนายจ้างเกี่ยวกับกรณีการใช้งานและวิธีที่ดีที่สุดในการผนวกรวมเครื่องมือดังกล่าวเข้ากับนโยบายของสถานที่ทำงานและรักษาการปฏิบัติตามข้อกำหนด

ความสามารถ

ChatGPT เป็นแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ด้านภาษาที่ได้รับการฝึกฝนให้โต้ตอบบทสนทนาและปฏิบัติงานต่าง ๆ ในการฝึก AI อย่าง ChatGPT นั้นชุดข้อมูลจำนวนมากจะถูกป้อนเข้าสู่อัลกอริทึมของคอมพิวเตอร์ จากนั้นแบบจำลองจะได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาว่าสามารถคาดการณ์ได้ดีเพียงใดเมื่อตรวจสอบกับข้อมูลที่ยังไม่รู้ก่อนหน้านี้ จากนั้นเครื่องมือ AI จะถูกทำการทดสอบเพื่อดูว่าแบบจำลองทำงานกับข้อมูลใหม่จำนวนมากที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ดีหรือไม่

แม้ว่า Chat GPT จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานได้ แต่ก็มีความเสี่ยงทางกฎหมายสำหรับนายจ้างด้วยเช่นกัน โดยเมื่อพิจารณาถึงวิธีการฝึกฝนและการเรียนรู้ของ AI ปัญหาสำคัญอาจเกิดขึ้นกับนายจ้างเมื่อพนักงานใช้ ChatGPT เพื่อปฏิบัติหน้าที่ของตน ความถูกต้องและความลำเอียงเป็นปัญหาสำคัญเมื่อพนักงานพยายามหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานของพวกเขาจาก ChatGPT

ความแม่นยำและการพึ่งพา AI

ความสามารถของ ChatGPT ในการให้ข้อมูลในฐานะแบบจำลอง AI ด้านภาษานั้นดีพอ ๆ กับข้อมูลที่มันได้เรียนรู้ในช่วงของการฝึกฝนเท่านั้น และแม้ว่า ChatGPT จะได้รับการฝึกจากข้อมูลออนไลน์จำนวนมหาศาล แต่ฐานความรู้ก็ยังมีช่องว่างอยู่

เวอร์ชันปัจจุบันของ ChatGPT ได้รับการฝึกจากชุดข้อมูลที่มีอยู่จนถึงปี 2021 เท่านั้น อีกทั้งเครื่องมือยังดึงข้อมูลออนไลน์ที่อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป หากพนักงานพึ่งพา ChatGPT สำหรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานและไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ปัญหาและความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับวิธีที่พนักงานใช้ข้อมูลนั้นและปลายทางที่พวกเขาส่งข้อมูลไป

ดังนั้นนายจ้างจึงควรกำหนดนโยบายที่สร้างแนวป้องกันโดยเฉพาะ เกี่ยวกับวิธีที่พนักงานจะใช้ข้อมูลจาก ChatGPT ในการทำงานของพวกเขา

อคติ

นอกจากนี้ยังมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องของอคติใน AI โดยคณะกรรมการเพื่อความเสมอภาคในการทำงานของสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกฎหมายการเลือกปฏิบัติในการจ้างงาน รวมถึงสภานิติบัญญัติของรัฐและท้องถิ่นเองก็กำลังเสนอกฎหมายที่จำกัดการใช้งาน AI ของนายจ้าง ซึ่งมีบางฉบับได้ผ่านแล้ว

ข้อมูลที่ AI ตอบให้เราได้นั้นทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อมูลที่มันได้รับการฝึกฝน และผู้ที่เป็นคนตัดสินใจเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว ซึ่งความลำเอียงนี้อาจแสดงออกมาในหลาย ๆ ประเภทของข้อมูลที่ ChatGPT นำเสนอเพื่อตอบคำถามที่อยู่ในการสนทนาด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นหากมีการปรึกษา ChatGPT เกี่ยวกับการตัดสินใจเกี่ยวกับการจ้างงาน มันอาจนำไปสู่การเรียกร้องถึงการเลือกปฏิบัติ และยังอาจทำให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐและท้องถิ่นที่ต้องมีการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการใช้ AI ในการตัดสินใจจ้างงานและ/หรือการตรวจสอบก่อนที่จะใช้งานจริงในบริบทของการจ้างงานบางอย่าง

เนื่องจากความเสี่ยงของการมีอคติใน AI นายจ้างจึงควรมีข้อห้ามทั่วไปเกี่ยวกับการใช้งาน AI ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจจ้างงานที่ไม่ได้รับอนุมัติจากฝ่ายกฎหมายรวมอยู่ในนโยบายของตน

ความเป็นส่วนตัวและการรักษาความลับ

ความลับและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลก็เป็นอีกข้อกังวลสำหรับนายจ้างเมื่อคิดถึงวิธีที่พนักงานอาจใช้ ChatGPT กับงาน มีความเป็นไปได้ที่พนักงานจะแชร์ข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ เป็นความลับ หรือความลับทางการค้าเมื่อมีการสนทนากับ ChatGPT

แม้ว่า ChatGPT จะแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการเก็บข้อมูลระหว่างการโต้ตอบ แต่มันก็ได้เรียนรู้จากทุก ๆ บทสนทนา และแน่นอนว่าผู้ใช้จะต้องป้อนข้อมูลในการคุยกับ ChatGPT ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งไม่มีการรับประกันความปลอดภัยในการสื่อสารดังกล่าว

ข้อมูลที่เป็นความลับของนายจ้างอาจได้รับผลกระทบหากพนักงานเปิดเผยกับ ChatGPT นายจ้างที่รอบคอบจะมีข้อห้ามไม่ให้พนักงานอ้างถึงหรือป้อนข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ เป็นความลับ หรือความลับทางการค้าลงในแชทบอท AI หรือแบบจำลองทางภาษา เช่น ChatGPT รวมไว้ในข้อตกลงและนโยบายการรักษาความลับของพนักงาน

อาจมีข้อโต้แย้งที่ดีว่าข้อมูลที่ให้กับแชทบอทออนไลน์นั้นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการเปิดเผยความลับทางการค้าของบริษัทเสมอไป แต่ในทางกลับกันเนื่องจาก ChatGPT ได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลออนไลน์จำนวนมาก พนักงานอาจได้รับและใช้ข้อมูลจากเครื่องมือที่เป็นเครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ หรือทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลหรือหน่วยงานอื่น ซึ่งสร้างความเสี่ยงทางกฎหมายให้กับนายจ้างได้

ข้อกังวลอื่น ๆ ของนายจ้าง

นอกเหนือจากข้อกังวลด้านกฎหมายเหล่านี้แล้ว นายจ้างควรพิจารณาถึงขอบเขตที่ต้องการอนุญาตให้พนักงานใช้ ChatGPT กับงานของตน นายจ้างกำลังอยู่ในทางแยกที่สำคัญของการพิจารณาว่าจะยอมรับหรือจำกัดการใช้งาน ChatGPT ในที่ทำงานหรือไม่และอย่างไร

นายจ้างควรชั่งน้ำหนักประสิทธิภาพและความประหยัดที่พนักงานสามารถทำได้โดยใช้ ChatGPT เพื่อทำงานต่าง ๆ เช่น การเขียนจดหมายและอีเมลที่ต้องทำเป็นประจำ หรือการสร้างรายงานและงานนำเสนอ เป็นต้น เทียบกับการสูญเสียโอกาสในการพัฒนาสำหรับพนักงานที่ปฏิบัติงานดังกล่าวด้วยตนเอง

ChatGPT จะไม่หายไปไหน และเวอร์ชันใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงจะออกมาในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วนายจ้างจะต้องจัดการกับเรื่องการนำเครื่องมือดังกล่าวไปใช้ในที่ทำงานของตน แม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นดังที่กล่าวไปแล้ว แต่นายจ้างก็สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างมหาศาล

Leave a Reply

Your email address will not be published.