ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน 2022 รัฐบาลไทยได้เปิดตัวโครงการวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติประเภทผู้พำนักระยะยาว (LTR) ผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยมีจุดประสงค์ดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพซึ่งต้องการย้ายมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย ไม่ว่าจะเพื่อโอกาสในการทำงานหรือเกษียณอายุ โดยมาตรการเชิงกลยุทธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อก่อให้เกิดคลื่นลูกใหม่ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถในระดับโลกทำให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป
ภายใต้โครงการวีซ่า LTR ผู้สมัครที่ผ่านเงื่อนไขและได้รับอนุมัติทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ ประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ พร้อมด้วยคู่สมรสและผู้ติดตามโดยชอบด้วยกฎหมาย จะได้รับสิทธิประโยชน์หลากหลายประการ ประกอบด้วยระยะเวลาวีซ่า 10 ปี (สามารถขยายได้) ขยายเวลาการรายงานตัวจาก 90 วัน เป็น 1 ปี ไม่ต้องยื่นขออนุญาตกลับเข้ามาในราชอาณาจักร ได้รับใบอนุญาตให้ทำงานอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 17% (สำหรับผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ) และบริการช่องทางพิเศษณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศ โดยนับตั้งแต่เปิดตัว BOI ได้รับคำขอแล้วเกือบ 5,000 รายการจากทั่วทุกมุมโลก
รัฐบาลไทยตระหนักถึงความจำเป็นในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญและผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ การเงิน และการตลาด ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการจัดตั้งฐานการผลิตสำหรับบริษัทต่างชาติรายใหญ่ในประเทศไทย จึงเห็นความจำเป็นในการแก้ไขข้อกำหนดในการยื่นขอวีซ่า LTR เพื่อขยายขอบเขตของผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษเพิ่มเติม
ดังนั้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2023 BOI จึงออกประกาศแก้ไขคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการขอวีซ่า LTR ในส่วนนี้ ซึ่งผลจากการแก้ไขทำให้ขณะนี้ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษมีสิทธิ์ทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมายได้ถึง 15 อุตสาหกรรม ดังต่อไปนี้
การแก้ไขนี้จะทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายมีความยืดหยุ่นและเหมาะสมในการดึงดูดชาวต่างชาติให้ยื่นขอวีซ่า LTR ประเภทนี้มากขึ้น ส่วนข้อกำหนดอื่น ๆ ในการยื่นขอวีซ่า LTR สำหรับผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยผู้สมัครที่จะผ่านเกณฑ์ได้ต้องมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
ข้อกำหนดด้านรายได้
• มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ในระยะเวลา 2 ปีก่อนยื่นคำขอ
• กรณีที่รายได้ส่วนบุคคลต่ำกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี แต่ไม่น้อยกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ในระยะเวลา 2 ปีก่อนยื่นคำขอหรือก่อนการเกษียณอายุ ผู้ยื่นคำขอต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปในสาขาด้านวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยี หรือมีความเชี่ยวชาญในสายงานซึ่งจะเข้ามาทำงานในประเทศไทย
• ไม่ต้องแสดงหลักฐานรายได้ขั้นต่ำ สำหรับการทำงานในสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย สถาบันฝึกอบรมเฉพาะทาง หรือหน่วยงานภาครัฐ
ข้อกำหนดด้านการทำงานและอื่น ๆ
• จะต้องเป็นการทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (ตามที่ระบุไว้ข้างต้น)
• มีประสบการณ์การทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปี ภายใน 10 ปี ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ยกเว้นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกขึ้นไปในสาขาที่เกี่ยวข้องภายในอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือผู้ที่ทำงานให้กับสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย สถาบันฝึกอบรมเฉพาะทาง หรือหน่วยงานภาครัฐ
• มีประกันสุขภาพคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลไม่น้อยกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐ หรือสิทธิประกันสังคมที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทย หรือเงินฝากในบัญชีไม่น้อยกว่า 100,000เหรียญสหรัฐ
• ต้องไม่จัดเป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมายคนเข้าเมือง
ด้วยการขยายคุณสมบัติวีซ่า LTR สำหรับผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษนี้ คาดว่าจะมีชาวต่างชาติรวมมากกว่า 9,000 ราย ที่ยื่นขอวีซ่า LTR ภายในสิ้นปี 2023 ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากกว่า 50 ล้านบาท และสร้างการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้เพิ่มขึ้นอีกมาก
Leave a Reply