fbpx

BOI ออกมาตรการส่งเสริมเพื่อดึงดูดการจัดงานมหกรรมระดับโลก

1024 683 admin

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อนุมัติมาตรการส่งเสริมสำหรับดึงดูดการจัดงานมหกรรมดนตรี กีฬา และเทศกาลนานาชาติ เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของไทยให้เป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยวของภูมิภาคและจุดหมายปลายทางในการจัดงานระดับโลก โดยการปลดล็อคอุปสรรคของการจัดงานขนาดใหญ่ เช่น เรื่องวีซ่าและใบอนุญาตทำงานของศิลปินและทีมงานต่างชาติ เรื่องภาระภาษีของอุปกรณ์จัดการแสดง เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้จัดงานระดับโลกให้สามารถเข้ามาจัดงานแสดงในประเทศไทยได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดการท่องเที่ยวและเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวและบันเทิงของประเทศให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหลังจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 อีกทั้งยังช่วยสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศตามเป้าหมายของรัฐบาล

สำหรับหลักเกณฑ์การขอรับการส่งเสริมในกิจการจัดงานมหกรรมดนตรี กีฬา และเทศกาลนานาชาติจะต้องเป็นงานมหกรรมขนาดใหญ่ที่มีการลงทุนหรือค่าใช้จ่ายในการจัดงานไม่น้อยกว่า 100 ล้าน โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดงาน พร้อมทั้งการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงานสำหรับศิลปินและบุคลากรต่างชาติที่เข้ามาจัดงาน ผู้ยื่นขอจะต้องพิสูจน์สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการจัดงานโครงการที่ยื่นขอส่งเสริม มาตรการนี้จะไม่ได้ครอบคลุมการจัดการประชุมและงานแสดงสินค้า

จากที่รัฐบาลได้ประกาศวิสัยทัศน์ Ignite Thailand โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ คือการยกระดับประเทศไทยให้เป็นแหล่งจัดงานใหญ่ระดับโลก เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก การออกมาตรการนี้จะช่วยตอกย้ำศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยที่จะเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวและศูนย์กลางด้านความบันเทิงของภูมิภาค ดึงเม็ดเงินจากการใช้จ่ายของผู้ร่วมงานทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีอำนาจใช้จ่ายสูง อีกทั้งยังช่วยหนุนธุรกิจบริการอื่น ๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะโรงแรม ร้านอาหาร สินค้าท้องถิ่น และบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวให้ได้รับประโยชน์ไปด้วยกัน

“BOI จะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดงานระดับโลกด้วยการปลดล็อคปัญหาด้านภาษีและกฎระเบียบ ทำให้ช่วยลดต้นทุน ระยะเวลาดำเนินการ และอุปสรรคสำหรับผู้จัดงานได้อย่างมาก” นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ BOI กล่าว “การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นความช่วยเหลือในด้านการพัฒนาภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องจักรสำคัญทางเศรษฐกิจของไทย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของ GDP และตอกย้ำภารกิจของ BOI ในการส่งเสริมความสะดวกในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง”

ปรับปรุงธุรกิจการผลิต PCB ที่ได้รับสิทธิ์ส่งเสริมให้ครอบคลุมตลอดซัพพลายเชน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ปรับปรุงกิจการในกลุ่มแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Printed Circuit Board: PCB) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องจักรระบบอัตโนมัติ และดิจิทัล เพื่อรองรับกระแสการโยกย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่จากแรงกดดันของปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ของโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างอิเล็กทรอนิกส์ โดยเพิ่มเติมบัญชีประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริม ในกลุ่มแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ให้ครอบคลุมกิจการสนับสนุนที่สำคัญในห่วงโซ่อุปทานของ PCB ได้แก่ กิจการสนับสนุนการผลิต PCB ได้แก่ Lamination, Drilling, Plating และ Routing กิจการผลิตวัตถุดิบสำคัญสำหรับการผลิต PCB ได้แก่ Copper Clad Laminate (CCL), Flexible CCL (FCCL) และ Prepreg และกิจการผลิตวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นอื่น ๆ สำหรับการผลิต PCB เช่น Dry Film, Transfer Film, Backup Board เป็นต้น โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบที่นำมาผลิตเพื่อส่งออก และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 8 ปี โดยจำแนกตามความสำคัญของวัตถุดิบ เทคโนโลยี และขนาดการลงทุน

ทั้งนี้ PCB เป็นแผงวงจรที่รวบรวมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เข้าด้วยกัน เพื่อเชื่อมการทำงานของชิ้นส่วนและควบคุมระบบต่าง ๆ ในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ทุกชนิด ถือเป็นขั้นตอนการผลิตที่มีความสำคัญที่สุดขั้นตอนหนึ่งในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยในปี 2023 ที่ผ่านมา BOI ได้อนุมัติสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนให้กับโครงการ PCB ประมาณ 40 บริษัท คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1 แสนล้านบาท โดยมีคำขออนุมัติโครงการทั้งจากบริษัทในจีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น ที่ต้องการย้ายฐานการผลิต PCB มายังประเทศไทย

การปรับปรุงในครั้งนี้มุ่งรองรับกระแสการโยกย้ายเงินลงทุนครั้งใหญ่ของโลกในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยเพิ่มเติมการส่งเสริมอุตสาหกรรม PCB ให้ครอบคลุมตลอดซัพพลายเชน ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ เพื่อนำไปสู่การสร้างคลัสเตอร์ PCB ให้เป็นคลัสเตอร์อุตสาหกรรมใหม่ในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของฐานการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ และช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทยที่จะสามารถเติบโตไปพร้อมกันด้วย ปัจจุบันประเทศไทยได้ขึ้นมาเป็นฐานการผลิต PCB อันดับ 1 ของอาเซียน หากไทยสามารถช่วงชิงโอกาสในการสร้างซัพพลายเชนของการผลิต PCB ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างครบวงจร ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำในตลาดโลกได้ในอนาคต

Leave a Reply

Your email address will not be published.