เราส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาอยู่ในประเทศที่ตนเกิด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่เราจะเห็นว่าทำไมผู้ประกอบการจำนวนมากถึงได้เริ่มต้นการเดินทางของธุรกิจครั้งใหม่ในบ้านของตน แต่เมื่อธุรกิจนั้นเริ่มมีการผสมผสานมากขึ้นและการโยกย้ายข้ามเขตแดนทำได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าจะให้ทำในรูปแบบการเผยแพร่ศาสนานั้นก็ดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดเท่าไหร่
มีเหตุผลดี ๆ หลายข้อในการที่จะออกไปสำรวจประเทศอื่นเพื่อที่จะดูว่าคุณและธุรกิจของคุณนั้นอาจจะเติบโตได้ดีกว่าถ้าหากย้ายไปอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง แน่นอนว่าคุณจะต้องหาหนทางเพื่อรับมือกับกฎข้อบังคับ วัฒนธรรม และนโยบายรัฐบาลที่ไม่คุ้นเคย แต่การจะเข้าถึงข้อมูลและบริการผ่านทางอินเติอร์เน็ตนั้น ก็เป็นเรื่องที่จะเรียนรู้ได้ง่าย และก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้
แต่คุณจะเลือกประเทศที่ใช่สำหรับธุรกิจของคุณได้อย่างไร ในขณะที่หลาย ๆ ประเทศต่างก็โน้มน้าวให้เห็นข้อดีของตน? การดึงดูดธุรกิจstartup โดยการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรสำหรับอัตราการเติบโตสูง และมีอิมแพคต่อธุรกิจของผู้ประกอบการด้วยกันรวมถึงบุคคลทั่วไปในอัตราสูง ได้กลายเป็นเป้าหมายของหลาย ๆ ประเทศ
รัฐบาลทั่วโลกกำลังตัดภาษีธุรกิจออกไป และนำนโยบายที่เป็นมิตรต่อผู้ประกอบการมาใช้ เปิดตัวกองทุนร่วมของตัวเอง และให้การการันตีช่วงที่กำลังบ่มเพาะธุรกิจ ซึ่งสร้างความหวังว่าจะได้เห็น Uber, Apple, Facebook, Google, Microsoft, Amazon, หรือ Twitter รุ่นถัดไป
ด้านล่างนี้คือการตอบรับจากผลการสำรวจความคิดเห็น
-
นโยบายที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจ (Business-Friendly Policies)
ผู้ที่ให้ความคิดเห็นจากการสำรวจนี้มองว่านโยบาย business-friendly ของรัฐบาลนั้นคือปัจจัยอันดับต้น ๆ ในการพิจารณาของตน จากการที่ผู้ประกอบการที่มาจากอินเดียท่านนึงได้ให้ความเห็นไว้ว่า “ในความคิดเห็นของผม ประเทศที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจ คือประเทศที่รัฐบาลได้ให้ความเชื่อมั่นว่าธุรกิจนั้นจะสามารถเข้าถึงแรงงานที่มีคุณภาพ ระบบการเก็บภาษีที่น่าสนใจ ระบบการขนส่งที่มีศักยภาพและมีความสเถียร ความปลอดภัยในที่สาธารณะ และระบบยุติธรรมที่ทำงานได้ดี ประเทศนั้น ๆ ควรจะมีระเบียบการทางราชการที่น้อยที่สุด และสร้างช่องทางที่ง่ายในการเข้าถึงโครงการช่วยเหลือของรัฐ
การที่ปัจจัยดังกล่าวขึ้นมาอยู่อันดับต้น ๆ นั้น เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เป็นอย่างมาก ตั้งแต่นโยบายธุรกิจของประเทศได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในเรื่องการประสบความสำเร็จ (หรือล้มเหลว) ของธุรกิจ Startup ดังนั้นกฎระเบียบที่ ยุติธรรม และสามารถปฏิบัติตามได้ง่ายคือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนั้นเฉียบแหลม มีประสิทธิภาพ และมีความก้าวหน้า เนื่องจากการที่ทางรัฐบาลนั้นได้เข้ามาดูแลในเรื่องวัฒนธรรมในการสรรค์สร้าง การเป็นเจ้าของกิจการ และนวัตกรรม
ประเทศสิงคโปร์นั้นยุติธรรมในเรื่องนโยบายที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจ (business-friendly policies) อย่างไร
เป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว ที่ทาง World Bank ได้จัดอันดับให้ประเทศสิงคโปร์เป็น สุดยอดประเทศ1ใน3 จากทั้งหมด 190 ประเทศ ที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ การเข้าร่วมการเป็นบริษัทร่วมทุนใหม่ในสิงคโปร์ นั้นไม่ยุ่งยาก มีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว กฎระเบียบตามข้อกำหนดขององค์กรนั้นตรงไปตรงมาและปฏิบัติตามได้ง่าย ซึ่งธุรกิจ startup นั้นสามารถปฏิบัติตามได้โดยที่ไม่มีข้อกำหนดทางราชการและภาระทางการเงินที่มากจนเกินไป สำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม เราสามารถสรุปกฎข้อบังคับได้ตามนี้
- จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานด้านงานบัญชี และต้องยื่นภาษีตามกำหนด
- จะต้องอัพเดทบันทึกราชการอยู่เสมอ เมื่อใดก็ตามที่กฎเหล่านั้นมีผลในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของบริษัท
- ปฏิบัติตามระเบียบการจ้างงานอย่างเคร่งครัด
- จะต้องรักษาข้อมูลส่วนตัวของพนักงานและลูกค้าไว้เป็นความลับ
- จะต้องเปิดกว้างในเรื่องการแข่งขันทางการตลาด และ
- ในอุตสาหกรรมบางแขนงจำเป็นที่จะต้องได้รับอนุญาตหรือมีใบอนุญาตในการดำเนินกิจการ
เหล่านี้ล้วนแต่เป็นข้อปฏิบัติที่สืบเนื่องกันและไม่ยุ่งยาก เป็นกฎปฏิบัติสำหรับองค์กรที่มีความซับซ้อนน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ
มากไปกว่านั้นนโยบายภาษีของสิงคโปร์นั้นเป็นแบบ pro-market และสิทธิประโยชน์ทางภาษีนั้นก็ได้ขยายไปสู่บริษัทที่ถือครองโดยชาวต่างชาติ สำหรับธุรกิจต่างชาตินั้นก็จะได้สิทธิประโยชน์จากกฎการเป็นเจ้าของ และ การควบคุมดูแลทางการเงินที่น้อยที่สุด ทางรัฐบาลอนุญาตให้บริษัทที่เข้าไปทำธุรกิจนั้นสามารถมีผู้ถือหุ้นเป็นชาวต่างชาติได้ 100% โดยที่ไม่ต้องร่วมทุนหรือมีผู้ถือหุ้นท้องถิ่น ซึ่งช่วยให้ธุรกิจ startup นั้นสามารถปรับโครงสร้างทางเงินทุนให้เหมาะกับตนมากกว่าถูกกำหนดโดยรัฐบาล ซึ่งในสิงคโปร์นั้นไม่ได้มีความเข้มงวดหรือข้อบังคับใบเรื่องการหมุนเวียนของเงินทุน และปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ก็เอื้อให้ธุรกิจ startup สามารถดำเนินไปได้อย่างเสรี เข้าถึงเงินทุนได้ง่ายโดยไม่ถูกชะงักด้วยกฎหมายที่ยุ่งยาก
-
การเข้าถึงทรัพยากรสำหรับ Startup
ในการจะเป็นธุรกิจ Startup ที่ประสบความสำเร็จได้นั้นจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่เข้าร่วมในตลาดส่วนอื่น ๆ อย่างเช่น นักลงทุน สถาบันวิจัย ผู้ให้บริการที่หลากหลาย โครงการสนับสนุน พื้นที่ทำงานร่วมกัน และหน่วยงานของภาครัฐ
การเข้าถึงทรัพยากรสำหรับ startup ได้โดยง่ายนั้นได้ถูกจัดอันดับความสำคัญไว้เป็นอันดับสอง จากผู้ที่ให้ความเห็นผ่านการสำรวจ
“ผมชอบประเทศที่มีระบบนิเวศสำหรับธุรกิจ startup ที่มีประสิทธิผลมากกว่า ซึ่งผมมองว่ามันคือโครงข่ายที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจ startup ไม่ว่าจะเป็นการมีผู้รู้คอยให้คำแนะนำหรือเพื่อนร่วมวงการที่ช่วยให้เราสามารถเปิดตัวธุรกิจได้ (ระบบ)ที่สนับสนุนธุรกิจที่มีอยู่แล้ว และช่วยรักษาระดับความเจริญเติบโตของบริษัทและผู้ประกอบการ” โอลิเวอร์ ลอว์สัน ผู้ประกอบการจากลอนดอน กล่าว “ผมอยากจะไปอยู่ในที่ที่ให้ความดูแลในเรื่องการลองผิดลองถูก มีชุดความคิดที่สนับสนุนธุรกิจ startup และช่วยบ่มเพาะในเรื่องไอเดียต่าง ๆ”
ประเทศสิงคโปร์ให้ความยุติธรรมในการเข้าถึงทรัพยากร startup อย่างไร?
สิงคโปร์เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่มีจำนวนประชากรไม่ถึง 6 ล้านคน แต่กลับมีธุรกิจ startup หลายพันบริษัทเกิดขึ้นใหม่ในทุก ๆ ปี มีทางเลือกของกองทุนเพื่อการลงทุนเป็นจำนวนมาก มีเครือข่ายของนักลงทุนที่หลากหลาย มีพื้นที่ co-working space มากกว่า 50 แห่ง และมีการสร้างวัฒนธรรมของการเป็นผู้ประกอบการขึ้นมา ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่าสิงคโปร์พุ่งเป้าไปที่การเป็นประเทศ “ที่ผลิตธุรกิจ startup” ของเอเชีย
รัฐบาลสิงคโปร์ให้การสนับสนุนธุรกิจ startup และจัดเตรียมทรัพยากรไว้สำหรับธุรกิจใหม่ ๆ รวมไปถึงเงินช่วยเหลือ สิทธิประโยชน์ทางภาษี และความช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งความช่วยเหลือนั้นขึ้นอยู่กับความจำเป็นในธุรกิจ startup ของคุณ รวมไปถึงความสามารถที่ได้มาตรฐานตามที่กำหนดไว้ มีทรัพยากรมากมายที่สามารถใช้ประโยชน์ได้เพื่อใช้ในการเข้ามาเป็นองค์กร startup ในสิงคโปร์ ทางรัฐบาลสิงคโปร์นั้นได้สร้างกองทุนและความช่วยเหลือไว้หลายช่องทางโดยที่มุ่งเน้นไปที่ไปยังอุตสาหกรรมแบบเฉพาะเจาะจง กองทุนสำหรับเงินร่วมลงทุนใหญ่ ๆ จากทั่วโลกนั้นก็มีให้บริการในสิงคโปร์ ซึ่งมุ่งเป้าไปที่บรรดาธุรกิจ startup ที่เข้ามาก่อตั้งทีนี่
มากไปกว่านั้น การที่สิงคโปร์อนุญาตให้มีการไหลเวียนของเงินทุนได้อย่างเสรีทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของเงินทุน ประสิทธิภาพที่มากขึ้น และความรวดเร็วที่มากขึ้น ในช่วงเริ่มแรกของระบบนิเวศสำหรับนักลงทุนในสิงคโปร์นั้นจึงมีความแข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อน อุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นก็มีลักษณะความเป็นสากลเนื่องจากมีจำนวน startupที่ มากขึ้น ที่กำลังมองหาเงินทุนจากแหล่งกำเนิด ผู้ช่วยสนับสนุน และนักลงทุนนอกสิงคโปร์ที่ตนจะร่วมทุนด้วย ในการเข้าถึงเงินทุนทั้งในและนอกประเทศนั้น startup ในสิงคโปร์นั้นไม่ได้มีข้อจำกัดในเรื่องเงินทุน
และในท้ายที่สุด สิงคโปร์ก็ได้รับการขนานนามว่า เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเสรีอันดับหนึ่งของโลก เป็นสถานที่ที่เยี่ยมยอดในการดำเนินธุรกิจ startup ซึ่งคุณสามารถที่จะก่อตั้งธุรกิจในส่วนไหนก็ได้เพราะการค้าไม่มีขีดจำกัด ค่าเงินมีความแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ รวมถึงความเสรีในการหมุนเวียนเงินทุนทั้งภายในและนอกประเทศ
หากท่านใดสนใจจดทะเบียนบริษัทที่สิงคโปร์ สามารถติดต่อเราได้ที่บริษัท InterLoop Solutions & Consultancy เราพร้อมให้คำปรึกษาทั้งด้านลงทุน การจดทะเบียน และบริการต่าง ๆ ที่ประเทศสิงคโปร์อย่างครอบคลุม ด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ ติดต่อได้ที่ โทร: 097-106-9113 ไลน์ไอดี: @inlps
Leave a Reply