PayNow ของสิงคโปร์และ PromptPay ของไทยเปิดตัวระบบการโอนเงินข้ามพรมแดน

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้ร่วมกันเปิดตัวการเชื่อมโยงระบบการโอนเงินแบบเรียลไทม์ PromptPay ของไทยกับ PayNow ของสิงคโปร์ ทำให้สามารถโอนเงินระหว่างประเทศได้ภายในไม่กี่นาทีเป็นแห่งแรกของโลก และเป็นการปูทางสำหรับเครือข่ายการโอนเงินข้ามพรมแดนกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน

การเชื่อมโยงนี้จะช่วยให้ลูกค้าของธนาคารที่เข้าร่วมในประเทศไทยและสิงคโปร์สามารถโอนเงินข้ามประเทศได้สูงสุดวันละ 25,000 บาทหรือ 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ โดยใช้เพียงหมายเลขโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะลดค่าธรรมเนียมการโอนลง โดยธนาคารที่เข้าร่วมจะเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมกับตลาด ซึ่งจะเป็นราคาที่เหมาะสมและแสดงให้ผู้ใช้เห็นอย่างชัดเจนก่อนยืนยันการโอนเงิน

การเชื่อมโยง PromptPay-PayNow เป็นความร่วมมือที่สำคัญภายใต้ ASEAN Payment Connectivity ที่เริ่มต้นในปี 2562 และสอดคล้องกับความพยายามของ G20 คณะกรรมการดูแลเสถียรภาพทางการเงิน และหน่วยงานกำหนดมาตรฐานสากลอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินข้ามพรมแดนที่รวดเร็ว ถูก ครอบคลุม และโปร่งใสยิ่งขึ้น

ธปท. และ MAS จะขยายการเชื่อมโยง PromptPay-PayNow อย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีผู้เข้าร่วมมากขึ้นและขยายขีดจำกัดการโอนเงินเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางธุรกิจต่อไป

ในด้านการใช้งานนั้นจะคล้ายกับการโอนเงินด้วย PromptPay และ PayNow ในปัจจุบัน ซึ่งสามารถดำเนินการผ่านโมบายแบงก์กิ้งหรือแอปพลิเคชันการชำระเงินเพื่อทำการโอนเงินอย่างรวดเร็วและปลอดภัยได้ตลอดเวลา โดยการโอนเงินจะเสร็จสิ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่ดีขึ้นจากบริการโอนเงินข้ามพรมแดนแบบเดิมที่ใช้เวลาเฉลี่ย 1-2 วันทำการ

อนุสัญญาภาษีซ้อนระหว่างสิงคโปร์-ไทย (ตอนที่ 2)

บทบัญญัติหลักของ DTA

โดยทั่วไปแล้ว DTA ให้การผ่อนปรนแก่นักลงทุนจากการเก็บภาษีซ้ำซ้อนจากรายได้ที่ต้องเสียภาษีจากทั้งสองประเทศ ด้วยเหตุนี้นักลงทุนจึงอาจได้รับผลประโยชน์จากการยกเว้นภาษีหรือการเก็บภาษีในอัตราพิเศษหากตรงตามเงื่อนไขของอนุสัญญา

• ผลได้จากทุน

ข้อ 13 ระบุว่าเงินได้จากการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถานประกอบการถาวรในประเทศหนึ่งอาจถูกเก็บภาษีได้ในประเทศนั้น

เงินที่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศหนึ่งได้รับจากการจำหน่ายเรือหรืออากาศยานที่ใช้ในการจราจรระหว่างประเทศจะเก็บภาษีได้เฉพาะในประเทศนั้นเท่านั้น

เงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้น นอกเหนือจากหุ้นที่ถูกจำหน่ายในตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นที่ยอมรับ ที่มีมูลค่าอย่างน้อยสามในสี่ของมูลค่าหุ้นจากอสังหาริมทรัพย์ในประเทศหนึ่งอาจถูกเก็บภาษีได้ในประเทศนั้น

เงินได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินใด ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้นจะเก็บภาษีได้เฉพาะในประเทศที่ผู้จำหน่ายมีถิ่นที่อยู่

• การขจัดการเก็บภาษีซ้อน

ข้อ 22 ภาษีสิงคโปร์ที่พึงชำระในส่วนที่เกี่ยวกับเงินได้ที่ได้รับจากสิงคโปร์ จะยอมให้เป็นเครดิตต่อภาษีไทยที่พึงชำระในส่วนที่เกี่ยวกับเงินได้นั้น อย่างไรก็ตามเครดิตจะต้องไม่เกินจำนวนภาษีไทยซึ่งได้คำนวณไว้ก่อนที่จะได้รับเครดิต

เปรียบเทียบกับอนุสัญญาภาษีซ้อนฉบับก่อนหน้านี้

DTA ฉบับปัจจุบันใช้แทนอนุสัญญาภาษีซ้อนฉบับก่อนหน้าซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2518 ซึ่งนอกเหนือจากการแก้ไขบทบัญญัติที่ล้าสมัยบางประการเกี่ยวกับอัตราภาษีข้ามพรมแดนแล้ว บทบัญญัติของอนุสัญญายังถูกปรับให้สอดคล้องกับรูปแบบภาษีขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)

โดย DTA ฉบับปัจจุบันเพิ่มเกณฑ์ระยะเวลาในการพิจารณาการมีสถานประกอบการถาวรจาก 6 เดือนเป็น 12 เดือน และมีการปรับอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับเงินปันผล ดอกเบี้ย และค่าสิทธิลดลงดังนี้

• เงินปันผล

อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับเงินปันผลลดลงจาก 20% เป็น 10% ของจำนวนเงินปันผลทั้งหมด

• จ่ายดอกเบี้ย

อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับดอกเบี้ยลดลงจาก 25% เป็น 15% สำหรับผู้รับทุกประเภท ยกเว้นสถาบันการเงิน

• ค่าสิทธิ

อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับค่าสิทธิลดลงจาก 15% เป็น 5% 8% หรือ 10% ขึ้นอยู่กับประเภทของค่าสิทธินั้น

นอกจากนี้บทบัญญัติภายใต้ DTA ฉบับปัจจุบันเกี่ยวกับการเก็บภาษีเงินปันผล ดอกเบี้ย และค่าสิทธิระบุว่า ผู้รับจะต้องเป็นเจ้าของผลประโยชน์ของเงินได้นั้นจึงจะมีสิทธิ์ได้รับผลตามบทบัญญัติของ DTA

สรุป

บทบัญญัติที่เสรีมากขึ้นภายใต้ข้อตกลง DTA ในปัจจุบัน คาดว่าจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสิงคโปร์และไทยผ่านการอนุญาตให้ธุรกิจและนักลงทุนได้รับสิทธิพิเศษที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงจะช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระหว่างทั้งสองประเทศและส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศต่อไป

การจัดตั้งบริษัทในสิงคโปร์นั้นรวดเร็ว ง่ายดาย และปราศจากข้อบังคับที่ยุ่งยาก อีกทั้งสิงคโปร์ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ วิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มต้นและดำเนินกิจการกับบริษัทใหม่ในสิงคโปร์คือผ่านผู้ให้บริการองค์กรที่มีคุณภาพ หากคุณสนใจที่จะจัดตั้งบริษัทโปรดติดต่อเรา