โมเดลสำหรับธุรกิจขนาดเล็กในอนาคต
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผมจำได้ว่าตัวเองยืนอยู่ในห้องประชุมใหญ่ของบริษัทผู้ผลิตสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และกำลังอธิบายถึงสิ่งใหม่ที่เรียกว่า “Facebook” จริง ๆ แล้วไม่ควรจะมีเหตุผลอะไรเลยที่ผมต้องไปที่นั่น ผมทำงานให้กับร้านขายปลาเล็ก ๆ ในท้องถิ่น ซึ่งเมื่อปีก่อนแทบไม่มีใครรู้จักเลยนอกจากผู้ที่คลั่งไคล้ในงานอดิเรกนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2010 ถึง 2011 ทำให้ผมต้องไปอยู่ในห้องประชุมนั้น บริษัทเล็ก ๆ ของผมสร้างผู้ติดตามบน Facebook ซึ่งในขณะนั้นมีประมาณ 40,000 คน และมียอดผู้ชมบน YouTube มากกว่า 1 ล้านครั้ง
เราไม่สามารถจินตนาการถึงโลกที่ปราศจากอินเทอร์เน็ตได้อีกต่อไป นั่นหมายความว่าสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดที่ธุรกิจขนาดเล็กมีคือการเข้าถึงผู้คนผ่านทางอินเทอร์เน็ต ธุรกิจขนาดเล็กสามารถสร้างการเชื่อมต่อผ่านการติดตามบนโซเชียลมีเดีย ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งผ่านผู้ที่มองธุรกิจในฐานะผู้นำหรือผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม โซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยอินเทอร์เน็ตได้เปลี่ยนการตลาดและการนำเสนอสินค้าใหม่ทั้งหมด โมเดลของธุรกิจแห่งอนาคตอยู่ที่นี่แล้ว พร้อมกับวิธีการใหม่ ๆ สำหรับการทำธุรกิจขนาดเล็ก
ธุรกิจขนาดเล็กต้องการนวัตกรรมและการปรับตัวอย่างรวดเร็ว
ในการประกอบธุรกิจขนาดเล็ก เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์และทำตัวเหมือนกับสปีดโบ๊ท หากเราไม่เร่งปรับตัวตามเทคโนโลยีและสร้างตัวตนของเราบนอินเทอร์เน็ต เราอาจต้องมีการพูดคุยกันมากขึ้นเกี่ยวกับความจำเป็นในการหาเงินเพื่อให้ทีม 15 คน ของเรามีงานทำอย่างปลอดภัย นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเรา
บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่สามารถทุ่มกำลังคน เงิน และทรัพยากรให้กับปัญหาใด ๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นจากเศรษฐกิจหรือเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป พวกเขาไม่จำเป็นต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ จนกว่าคู่แข่งรายใหญ่รายหนึ่งของพวกเขาตัดสินใจว่าถึงเวลาที่จะต้องทำ
นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ยังคงเป็นเงื่อนไขในการขยายธุรกิจขนาดเล็กให้ประสบความสำเร็จ เมื่อรวมกับข้อเท็จจริงที่ว่าอินเทอร์เน็ตเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มมีการใช้งาน คุณจะได้สูตรสำเร็จสำหรับธุรกิจรูปแบบใหม่นั่นคือแนวทางที่เน้นสื่อเป็นหลัก (Media-First Approach)
ธุรกิจขนาดเล็กมีข้อได้เปรียบที่ไม่อาจปฏิเสธได้ประการหนึ่งคือการเข้าถึงลูกค้า บ่อยครั้งเจ้าของสามารถติดต่อโดยตรงกับลูกค้าส่วนใหญ่ได้ ผู้คนมักซื้อสินค้าจากธุรกิจขนาดเล็กเพราะคนที่ทำธุรกิจดังกล่าว หรืออีกนัยหนึ่งคือคนเลือกซื้อสินค้าจากคน
ในทางกลับกัน อินเทอร์เน็ตยังให้ความเสมอภาคที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการแข่งขันทางธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบันและเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการแข่งขันเพื่อดึงดูดความสนใจบนโซเชียลมีเดียมากกว่าที่เคยเป็นมา มันก็ยังเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่จะคิดว่าเราพึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยอินเทอร์เน็ต Facebook มีอายุเพียง 17 ปี เท่านั้น ในขณะที่เขียนบทความนี้ ซึ่งนั่นยังไม่โตพอที่จะถือว่าเป็นผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาด้วยซ้ำ
ทุนทางสังคมเป็นสกุลเงินของธุรกิจแห่งอนาคต
ทุนทางสังคมหรือที่เปรียบได้กับจำนวนคนที่คุณสามารถเข้าถึงได้ด้วยข้อความของคุณในฐานะผู้ประกอบการนั้นมีค่ามากยิ่งกว่าทองคำ เราได้เห็นการเพิ่มขึ้นของอินฟลูเอนเซอร์ ผู้นำทางความคิด และคอนเทนท์ครีเอเตอร์จำนวนมากผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย เช่น Instagram YouTube และ Twitch คนที่มีผู้ติดตามหลายพันหรือบางทีหลายแสนมีระดับความน่าเชื่อถือสูงกว่าผู้ที่มีเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในทันที โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงระดับความสามารถที่แท้จริงหรือคุณภาพของสินค้า
ปัญหาที่คอนเทนท์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ส่วนใหญ่มีคือพวกเขาไม่มีสินค้าหรือบริการที่จับต้องได้เพื่อใช้ประโยชน์จากโพสต์และวิดีโอของพวกเขา แต่มักจะพึ่งพาสปอนเซอร์ การโฆษณา การบริจาค และ Affiliate Marketing แทน โดยปกติแล้วธุรกิจขนาดเล็กจะขาดสถานะทางสังคมที่ดึงดูดผู้ชมและสร้างทุนทางสังคม ทุนทางสังคมทางอินเทอร์เน็ตดูเหมือนจะมีน้ำหนักมากและกลายเป็นเรื่องปกติที่คิดว่าการไม่มีเว็บไซต์ใด ๆ เลยเป็นเหมือนการทำธุรกิจแบบผิดกฎหมาย ธุรกิจประเภทไหนกันที่ไม่มีเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียขั้นพื้นฐาน การไม่มีพวกมันทำลายความเชื่อมั่นในสายตาของผู้บริโภคทั่วไปในทันที
ดังนั้นหากทุนทางสังคมเป็นสินทรัพย์หลักที่บริษัทต้องมีและผู้มีอิทธิพลสามารถเข้าถึงคนทั่วไปได้จริง มันจะมีความหมายอย่างไรต่อโมเดลธุรกิจ
จุดสนใจหลักจะต้องอยู่ที่การให้คุณค่าและการเป็นคอนเทนท์ครีเอเตอร์เพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าที่ภักดีและคลั่งไคล้ซึ่งสามารถเลี้ยงธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องด้วยการขาย ส่วนบริษัทที่เน้นแค่การขายสินค้าของตนเท่านั้นจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังและถูกมองว่ามีค่าน้อยกว่า
ลองคิดดูว่าหากคุณอยู่ในตลาดการบริการ คุณอยากจะทำธุรกิจกับใคร คุณจะไว้ใจใคร คนที่มีผู้ติดตามจำนวนมากและได้นำเสนอเนื้อหาเพื่อให้ความรู้และให้ความบันเทิงแก่ผู้คนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขานำเสนอ หรือคนที่เพียงแค่นำเสนอการขาย
โมเดลธุรกิจแห่งอนาคตคือการเป็นคอนเทนท์ครีเอเตอร์
บริษัทที่เป็นผู้นำตลาดจะไม่คิดว่าโซเชียลมีเดียและสถานะทางดิจิทัลของพวกเขาเป็นแค่กลยุทธ์ทางการตลาดหรือส่วนส่งเสริมการขายรอง ในโลกที่เน้นการเข้าถึงข้อมูล ความเชี่ยวชาญ ความเป็นผู้นำ และความต้องการความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง สินค้าแรกในบริษัทของคุณต้องเป็นสื่อ การเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ผู้นำทางความคิด หรือผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่มีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียจำนวนมากคือจุดขาย สินค้าหรือบริการที่แท้จริงของธุรกิจของคุณเป็นเพียงวิธีการสร้างรายได้รองที่สามารถเปลี่ยนแปลงและปรับเปลี่ยนได้ตามเวลา
ท้ายที่สุด ในกองทัพเรือสมัยใหม่ แม้แต่เรือประจัญบานก็ยังล้าสมัยไปนานแล้ว พวกมันช้าเกินไป ขาดความคล่องแคล่วและพลังการยิงที่จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างแท้จริง พวกมันถูกแทนที่ด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือลาดตระเวนเร็ว ในธุรกิจคุณเห็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ทำตัวเหมือนเรือประจัญบานล้มอยู่ข้างทางและถูกแซงโดยเรือบรรทุกเครื่องบิน Steve Jobs เปลี่ยนผู้คนจำนวนมหาศาลให้เป็นแฟนของ Apple Elon Musk สร้างกลุ่มผู้ติดตามที่ภักดีต่อ Tesla และ SpaceX John Legere เปลี่ยน T-Mobile จากเป้าหมายการถูกเข้าซื้อกิจการเป็นผู้ซื้อ เหล่านี้คือเรือบรรทุกเครื่องบิน
หากปราศจากการติดตามอย่างเหนียวแน่น ตัวผมในปี 2011 คงเป็นเพียงธุรกิจขายตู้ปลาเล็ก ๆ ทั่วไป ธุรกิจของคุณเองก็ต้องเป็นสปีดโบ๊ทด้วยเช่นกัน เพราะเศรษฐกิจต้องการแบบนั้น
Leave a Reply