การทำงานระยะไกลไม่เพียงเป็นประโยชน์แค่สำหรับพนักงานเท่านั้น

การทำงานระยะไกลไม่เพียงเป็นประโยชน์แค่สำหรับพนักงานเท่านั้น

เราอยู่ในช่วงของการเกิดโรคระบาดซึ่งส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงจากการทำงานในสำนักงานมาเป็นระยะไกลได้เกือบสองปีแล้ว แต่การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของการทำงานนั้นมักจะพลาดประเด็นสำคัญไป ด้วยการที่พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้และลดการรวมตัวแบบพบหน้ากันลง ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปพร้อมกับสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น

แม้ว่าผู้บริหารในกลุ่มเทคโนโลยีบางคนจะยังคงเลื่อนวันเปิดสำนักงานออกไป แต่สิ่งที่พนักงานจะกลับมาพบเจอนั้นไม่ใช่สภาพแวดล้อมแบบเดียวกับที่พวกเขาจากมาเมื่อเดือนมีนาคม 2020 ซึ่งนั่นอาจเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับทั้งพนักงานและธุรกิจ การปฏิบัติงานที่เน้นการทำงานระยะไกลสามารถสร้างพนักงานที่มีส่วนร่วม เก็บรักษาบุคลากร และช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นได้ นี่อาจเป็นภาพของการทำงานในอนาคตและเป็นสาเหตุที่การกลับไปอยู่ในสำนักงานอย่างเดียวเป็นการก้าวถอยหลัง

เปลี่ยนตัวชี้วัดความสำเร็จจากชั่วโมงการทำงาน

สำนักงานและงานที่เกิดขึ้นในนั้นถูกมองว่าเป็นผลลัพธ์มาเป็นเวลานานเกินไป บริษัทต่าง ๆ ประเมินพนักงานโดยพิจารณาจากระยะเวลาที่พวกเขาอยู่ที่โต๊ะทำงาน และเชื่อมโยงประสิทธิภาพของการทำงานเข้ากับแนวคิด “การทำงานหนัก”

ในความเป็นจริง สำนักงานเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายของบริษัท และด้วยการลบข้อจำกัดที่มาพร้อมกับสถานที่ทำงาน บริษัทอาจพบว่าพวกเขาบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ก่อนเกิดโควิด-19 พนักงานหลายคนต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าสามชั่วโมงต่อวัน หากตอนนี้มีการทำงานระยะไกลอย่างเต็มรูปแบบ ค่าใช้จ่ายทางสังคมสำหรับพนักงานเหล่านั้นก็จะหมดไป ด้วยเหตุนี้อุปสรรคในธุรกิจจึงลดลงอย่างมาก อีกทั้งพนักงานยังสามารถควบคุมสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้ดีขึ้น และบริษัทก็มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เราไม่ควรใช้จำนวนชั่วโมงการทำงานเป็นตัววัดประสิทธิภาพ แต่ควรให้ความสำคัญกับงานที่สำเร็จ หากพนักงานสามารถทำตามเป้าหมายได้ด้วยเวลาน้อยกว่าเวลาทำงานมาตรฐาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พวกเขาควรได้รับการชื่นชมและรางวัลตอบแทน การสนับสนุนให้หยุดงานอย่างที่ DigitalOcean ทำ โดยมีวันพักผ่อนให้ทั้งบริษัทเพิ่มเติมจากวันลาแบบไม่จำกัด ทำให้พนักงานรู้สึกสดชื่นและสามารถทำงานได้มากขึ้น การเปิดรับโมเดลการทำงานระยะไกลอย่างเต็มรูปแบบทำให้บริษัทก้าวไปถึงผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

หลังจากสองปีของการทำงานนอกสถานที่และการสนับสนุนให้หยุดงาน ประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทดีขึ้นกว่า 30% การส่งเสริมพนักงานที่มีความสุขซึ่งได้รับความยืดหยุ่นในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมได้ช่วยให้บรรลุเป้าหมายและขยายธุรกิจได้ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้คือตัวชี้วัดที่แท้จริง

แม้ว่าบริษัทหลายแห่งจะถูกบังคับให้ทำงานระยะไกลเนื่องจากการเกิดโรคระบาด แต่เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน บริษัทต้องมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมวัฒนธรรม รักษาพนักงาน และทำงานร่วมกัน ความกังวลหลักประการหนึ่งเกี่ยวกับการทำงานระยะไกลคือพนักงานจะไม่สามารถติดต่อกันแบบออนไลน์ได้ในลักษณะเดียวกับที่พวกเขาทำเมื่อเจอหน้ากันด้วยตนเอง และวัฒนธรรมของบริษัทจะได้รับผลกระทบไปด้วย

บริษัทที่จะสร้างวัฒนธรรมที่ยั่งยืนได้คือบริษัทที่มีความเข้าใจชัดเจนว่าตั้งขึ้นมาเพราะสาเหตุใด และทำงานอย่างแข็งขันเพื่อส่งเสริมและดำเนินงานตามค่านิยมที่มีร่วมกัน พวกเขาใช้สิ่งเหล่านั้นเป็นสัญญาทางสังคมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สอดคล้องกันอย่างเป็นทีม เมื่อบริษัทให้ความสำคัญกับการทำงานเพื่อบรรลุภารกิจร่วมกัน พนักงานก็จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ซึ่งสอดคล้องกับการให้บริการลูกค้าและระหว่างกันอย่างยั่งยืนมากขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม

ด้วยการใช้เครื่องมือเช่น Zoom เราสามารถจัดการประชุมและทำให้ทีมสามารถเชื่อมต่อทางสังคมผ่านกิจกรรมร่วมกันได้ การทำงานระยะไกลและแบบผสมผสานจะเกิดขึ้นได้เมื่อบริษัทลงทุนกับเวลาในการสร้างแนวทางสำหรับการมีส่วนร่วมและคิดถึงวิธีการเชื่อมต่อกันอย่างสร้างสรรค์

การสนับสนุนให้หยุดงานช่วยให้พนักงานใส่ใจกับสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งการทำให้แน่ใจว่าทุกคนมีการจัดการที่สะดวกสบายที่บ้าน ยังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการทำงานระยะไกลให้ประสบความสำเร็จอีกด้วย สิทธิประโยชน์เหล่านี้พร้อมกับการรวบรวมความคิดเห็นและพยายามปรับปรุงอยู่เสมอ ทำให้อัตราการลาออกของพนักงานที่ DigitalOcean ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงของการเกิดโรคระบาดขณะที่หลายบริษัทกำลังประสบกับปัญหา “การลาออกครั้งใหญ่”

โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การสับเปลี่ยนชั่วคราว

การที่คิดว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นเรื่องชั่วคราวและเชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ จะกลับสู่ภาวะ “ปกติ” เมื่อเราสามารถจัดการกับโควิด-19 ได้ดีมากขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากสองหรือสามปีของการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง สำหรับคนที่สามารถทำงานจากระยะไกลได้ จะไม่มีทางกลับไปสู่สภาพแวดล้อมในสำนักงานแบบเดิมได้อีก

ตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดโรคระบาด DigitalOcean ได้เริ่มเปิดรับสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่น โดยมีพนักงานมากกว่าครึ่งทำงานจากระยะไกล ซึ่งคนที่อาศัยอยู่ใกล้สำนักงานมักจะทำงานจากที่บ้านในบางวัน แต่ตอนนี้พนักงานส่วนใหญ่ต้องการทำงานจากที่ที่พวกเขาเลือกตลอดเวลา และบริษัทอีกหลายแห่งก็พบกับเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน

แทนที่จะพยายามย้อนกลับไปสู่สภาพแวดล้อมในการทำงานก่อนเกิดโควิด-19 ในอนาคตเราอาจจะมองย้อนกลับมาแล้วเห็นว่า สถานการณ์นี้เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับมุมมองระหว่างอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัวของเรา การใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมอันทรงพลังของเครื่องมือทางเทคโนโลยีช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำลายข้อจำกัดของสำนักงานที่เคยเป็นกลไกเดียวในการขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจ

ด้วยการเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับสถานที่ทำงานและวัฒนธรรมของบริษัท และให้ความสำคัญกับพันธกิจ ค่านิยม และการอำนวยความสะดวกในการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ เราสามารถมุ่งเน้นไปที่การบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม ผลิตสินค้าที่ดีขึ้น สร้างผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งขึ้น และขับเคลื่อนความพึงพอใจของพนักงานที่ดีและยั่งยืนยิ่งขึ้น นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการปูทางไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจในอนาคต