ผลกระทบของ AI ต่อกลยุทธ์การตลาดในอนาคต (ตอนที่ 1)

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้านการตลาดกำลังได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากมันสามารถใช้ประโยชน์จากการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์และเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าในระดับบุคคลได้ดียิ่งขึ้น

การสร้างประสบการณ์ออนไลน์ที่เฉพาะตัวมาก ๆ นั้นยังคงเป็นเป้าหมายที่ดูห่างไกล และมักถูกมองว่าเป็นความฝันของทีมการตลาดจำนวนมาก อย่างไรก็ตามโมเมนตัมที่การตลาดด้วย AI ขยายตัวอย่างต่อเนื่องนั้นนำมาซึ่งโอกาสที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ทำให้นักการตลาดสามารถเข้าใจถึงพฤติกรรมและประสบการณ์ของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโซลูชั่นแบบเรียลไทม์ได้

ยิ่งไปกว่านั้นการตลาดด้วย AI ช่วยให้สามารถสร้างช่องทางการสื่อสารที่น่าสนใจซึ่งทำงานได้โดยอัตโนมัติ ทั้งการทำงานตามคำสั่ง รวบรวมข้อมูลลูกค้า และจัดทำการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสมและการใช้งานที่มากพอ ทีมการตลาดสามารถปลดล็อกศักยภาพในการสร้างความพยายามในการสื่อสารที่เกี่ยวข้อง ทันท่วงที และช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า โดยจากงานวิจัยของ Gartner ความพึงพอใจของลูกค้าคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น 25% ในปี 2023 สำหรับธุรกิจที่มีการใช้งาน AI

แม้เราจะเห็นพ้องต้องกันว่าการตลาดด้วย AI และระบบนิเวศของ AI โดยรวมจะยังอยู่แค่ในช่วงเริ่มต้น แต่การมองไปในช่วงทศวรรษข้างหน้าอาจช่วยให้เราเห็นเทรนด์ใหม่ ๆ โอกาสในการพัฒนา หรือความท้าทายต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดได้

ภาพรวมของการตลาดด้วย AI

นับตั้งแต่เปิดตัวและมีการใช้งาน ChatGPT ในเชิงพาณิชย์โดย OpenAI เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2022 AI ได้แพร่หลายสู่เวทีโลกโดยมีทั้งบุคคล ธุรกิจ และทีมการตลาดนำไปใช้อย่างกว้างขวาง แม้ว่า ChatGPT, Bard ของ Google และ Sydney (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) ของ Bing จะเป็นจุดเปลี่ยนในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของระบบ AI แต่เราไม่สามารถมองข้ามซอฟต์แวร์ AI ที่มีมาก่อนซึ่งเป็นตัวเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการตลาดมาระยะหนึ่งแล้ว

ในขณะที่แต่ละบริษัทและทีมการตลาดมีแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่แตกต่างกันในแง่ของทรัพยากรทางการเงิน ลูกค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการ AI ได้เข้ามามีส่วนช่วยในการสร้างกรอบแนวทางที่ผู้เชี่ยวชาญทำความเข้าใจกับลูกค้า วิธีการสื่อสาร และวิธีที่จะสามารถส่งข้อความที่ถูกต้องไปยังกลุ่มคนที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม

เราได้เห็นแล้วว่าการใช้งานการค้นหาด้วยเสียงผ่านซอฟต์แวร์ เช่น Siri ของ Apple และ Alexa ของ Amazon มีส่วนสำคัญในการสร้างคอนเทนต์และส่งข้อความถึงลูกค้าจากข้อมูลการค้นหาด้วยเสียง เทคโนโลยีลักษณะนี้แพร่หลายมากขึ้นในการใช้งานประจำวันของผู้บริโภคซึ่งมักจะเป็นบนสมาร์ทโฟน งานวิจัยระบุว่าเกือบ 97% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีการใช้งานระบบการสั่งงานด้วยเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยประมาณ 40% ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อทำงานอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุกวัน

นอกจากนี้ AI ยังช่วยให้นักการตลาดเข้าใจลูกค้าผ่านการรวบรวมข้อมูล ถอดรหัสพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ คาดการณ์เทรนด์ และวิเคราะห์ความพยายามในการมีส่วนร่วม ซึ่งเร็วกว่าที่มนุษย์จะทำได้ โดยมีซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ทีมการตลาดเข้าใจได้ดีขึ้นว่าเนื้อหาประเภทใดที่ลูกค้ามีส่วนร่วมบ่อย ๆ เมื่อใช้เมตริกเหล่านี้ทีมจะสามารถสร้างกลยุทธ์ตามประวัติการค้นหาของลูกค้า หรือKeyword และมุ่งเน้นไปที่คอนเทนต์ที่จะสร้างโอกาสในการขายที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น

จากมุมมองของความต้องการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ภายในระบบนิเวศทางการตลาดที่มีมาอย่างต่อเนื่อง เราได้เห็นถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดสำหรับองค์กรที่สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างถูกต้องภายใต้กลยุทธ์ทางการตลาดของตน นี่อาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ธุรกิจประมาณ 40% กล่าวว่าประสบการณ์ของลูกค้าคือแรงจูงใจที่สำคัญที่สุดสำหรับการลงทุนและการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดหรือการบริการก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้นการตลาดด้วย AI ยังทำให้มั่นใจได้ว่าผู้เชี่ยวชาญจะสามารถผสมผสานทั้งเทคโนโลยีขั้นสูงและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่จะช่วยให้องค์กรขยายแนวทางในการส่งข้อความถึงลูกค้าโดยตรง เพิ่มความแม่นยำ พัฒนาประสิทธิภาพ และสร้างคอนเทนต์ดิจิทัลที่ดียิ่งขึ้น

ทศวรรษต่อไปของการตลาดด้วย AI

เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่เราได้ทำมา มันแสดงให้เห็นว่าส่วนที่พัฒนาขึ้นมาในอุตสาหกรรมการตลาดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และความต้องการสำหรับการปรับแต่งเฉพาะส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น การบูรณาการแบบข้ามช่องทาง และการมีส่วนร่วมของลูกค้าแบบไดนามิก ที่รอคอยมานานยังคงต้องการการพัฒนาที่มากขึ้นกว่านี้จากความก้าวหน้าของ AI

จนถึงทุกวันนี้นักการตลาดยังคงมองหาวิธีที่ดีขึ้นสำหรับการมีส่วนร่วมกับตลาดผู้บริโภคของตน แต่การพัฒนาของอุตสาหกรรมก็ยังคงไม่สมดุล โดยมักจะมีแค่บริษัทขนาดใหญ่และก้าวหน้ากว่าเท่านั้นที่มีความรู้และทรัพยากรเพียงพอที่จะนำโครงสร้างพื้นฐาน AI ไปใช้ในกลยุทธ์ทางการตลาดได้สำเร็จ

การค้นหาผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าจำเป็นต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมทั้งในอุตสาหกรรมการตลาดและปัญญาประดิษฐ์ สิ่งนี้สร้างทั้งโอกาสและความท้าทายใหม่เมื่อการตลาดด้วย AI กำลังพัฒนาขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยพื้นฐานที่มั่นคงและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทั้งสองอุตสาหกรรม ทศวรรษหน้าอาจนำมาซึ่งนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักการตลาด และจากสิ่งที่เราได้เรียนรู้และใช้อยู่ในปัจจุบัน อนาคตที่กำลังจะมาถึงอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับทั้งสองอุตสาหกรรมก็เป็นได้

การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและข้อมูลเชิงลึก

สิ่งที่อาจส่งผลต่อการเติบโตเชิงกลยุทธ์ของการตลาดดิจิทัลมากที่สุดนั้นอยู่ที่ความสามารถในการใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยสร้างข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นแนวทางให้นักการตลาดสามารถระบุเทรน ติดตามผลการดำเนินงาน และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดต่อกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราอาจเห็นการลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องมือวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดตัดสินใจแบบเรียลไทม์ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น การใช้ข้อมูลผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับแคมเปญการตลาด การสร้างคอนเทนต์ และการสร้างโอกาสในการขายที่มีคุณภาพจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าองค์กรต่าง ๆ สามารถนำการคาดการณ์ที่แม่นยำรวมเข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาดของพวกเขา เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นได้