พนักงานพร้อมแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลง แต่ผู้นำพร้อมที่จะมีส่วนร่วมกับพวกเขาหรือยัง?

รายงาน Global Workforce Hopes and Fears ล่าสุดจาก PwC ซึ่งทำการสำรวจพนักงานกว่า 56,000 คนใน 50 ประเทศและภูมิภาค พบว่าพนักงานมากกว่าครึ่งหนึ่งรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงในที่ทำงานหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นพร้อมกันมากเกินไป และ 44% ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีการเปลี่ยนแปลง ในขณะเดียวกันยังมีการรายงานถึงภาระงานที่เพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความมั่นคงในงาน และปัญหาทางการเงินที่รุนแรงมากขึ้น

อย่างไรก็ตามยังพอมีสัญญาณที่แสดงถึงความหวังและการมีส่วนร่วมที่ดีอยู่บ้าง พนักงานส่วนใหญ่พร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ หลายคนกระตือรือร้นที่จะพัฒนาทักษะและเห็นศักยภาพในการใช้งาน Generative AI (GenAI) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตน โดยมากกว่าครึ่งเห็นด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงที่พึ่งผ่านมาไม่นานนี้ทำให้พวกเขารู้สึกมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท

สัญญาณที่ผสมผสานกันนี้บ่งชี้ถึงสถานการณ์ของแรงงานทั่วโลกที่ติดอยู่ระหว่างปัจจุบันและอนาคต พวกเขาพร้อมเปิดรับอนาคต แต่แรงกดดันในปัจจุบันทำให้ยังคงมีความไม่มั่นใจ แม้ว่าจะมีเหตุผลทางธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนแปลง แต่ผู้นำต้องเพิ่มความพยายามในการชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญที่สุด นั่นคือพนักงานของพวกเขา เพราะหากพนักงานไม่เข้าใจและไม่ช่วยผลักดันการเปลี่ยนแปลงนี้ แผนการที่มีอยู่จะไม่มีทางประสบความสำเร็จ

การสำรวจในปีนี้ศึกษามุมมองและทัศนคติของพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการที่สำคัญ 6 ประการ ซึ่งผู้บริหารระดับสูงต้องทำเพื่อสร้างแรงงานที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การนำพาองค์กรผ่านการเปลี่ยนแปลง การปลดปล่อยพลังของ GenAI และการเพิ่มประสิทธิภาพผ่านการพัฒนาทักษะและประสบการณ์ของพนักงาน

การนำพาองค์กรผ่านการเปลี่ยนแปลง

พนักงานจำนวนมากดูเหมือนจะยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในที่ทำงานได้ สิ่งที่พวกเขาได้พบเจอในปีที่ผ่านมาทำให้พวกเขารู้สึกมองโลกในแง่ดี พนักงานสามในห้าคนเห็นด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงล่าสุดทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นกับอนาคตของบริษัท

อย่างไรก็ตาม แม้แต่การเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกก็ยังสามารถสร้างความเครียดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตราการเปลี่ยนแปลงนั้นรุนแรง พนักงานเกือบสองในสามกล่าวว่าพวกเขาได้ประสบกับการเปลี่ยนแปลงในที่ทำงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และหนึ่งในสามพบกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากกว่าสี่ครั้งในปีที่ผ่านมา ทั้งในแง่ของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทีมและหน้าที่ความรับผิดชอบประจำวัน

ผู้นำต้องสนับสนุนพนักงานในรูปแบบใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ธุรกิจกำลังเร่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับการเติบโต โดยสามารถดำเนินการเพื่อให้เกิดความสมดุลได้ดังนี้

• สร้างความยืดหยุ่นให้กับพนักงาน

ความเหนื่อยล้าและความรู้สึกท่วมท้นจากการเปลี่ยนแปลงในหมู่พนักงานกำลังเพิ่มงสูงมากในขณะนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าภาระงานของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยต้องเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับบทบาทและความรับผิดชอบของพวกเขา

นอกจากนี้พวกเขายังประสบกับความเครียดจากเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงาน เช่น พนักงานส่วนใหญ่ยังคงมีความเครียดด้านการเงินแม้ว่าจะมีความมั่นคงทางการเงินสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย หรือบางส่วนกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงในที่ทำงานล่าสุดทำให้พวกเขากังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในงาน ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยรวมแล้วมีแนวโน้มว่าพนักงานจำนวนมากอาจไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากความเครียดและความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงขวัญกำลังใจที่ลดลง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากสภาพภูมิอากาศ ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ AI และแรงผลักดันอื่น ๆ ที่กำลังปรับเปลี่ยนหลาย ๆ แง่มุมของชีวิต

ผู้นำมีบทบาทสำคัญในการช่วยเสริมสร้างความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความเครียดให้แก่พนักงาน การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอาจทำให้พนักงานมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่กับงานในปัจจุบันได้ยาก ผู้นำต้องตระหนักถึงเรื่องนี้และให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานภายในองค์กร สร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนสมดุลระหว่างเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว โดยการกำหนดความคาดหวังที่สมเหตุสมผลและสื่อสารอย่างเปิดเผยด้วยความเห็นอกเห็นใจและความโปร่งใส ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นประโยชน์ต่อตัวบุคคล แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม เนื่องจากพนักงานที่เครียดมากเกินไปและไม่โฟกัสจะทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร

แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง ผู้นำจึงต้องช่วยให้พนักงานเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้ดีขึ้น สิ่งนี้ต้องอาศัยภาวะผู้นำเชิงการเปลี่ยนแปลง โดยการสร้างแรงบันดาลใจและเสริมพลังให้ผู้อื่นยอมรับการเปลี่ยนแปลง วิธีการนี้ช่วยให้พนักงานสร้างความยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนและคว้าโอกาสได้ดีขึ้น แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะยังคงดำเนินอยู่รอบตัวพวกเขาก็ตาม

ผู้บริหารระดับสูงควรให้ความช่วยเหลือผู้จัดการระดับกลางเป็นพิเศษ พนักงานคนสำคัญเหล่านี้มักต้องแบกรับแรงกดดันขององค์กรและรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนไปพร้อม ๆ กับรักษาความเป็นอยู่ที่ดีของตนเอง การช่วยให้พวกเขามีความยืดหยุ่นเสริมสร้างความสามารถในการเอาชนะอุปสรรค ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง และนำทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

• ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

โดยรวมแล้วผู้บริหารและพนักงานมีความเห็นสอดคล้องกันเกี่ยวกับประเด็นใหญ่ ๆ ที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง เช่น เทคโนโลยี สภาพภูมิอากาศ และพลวัตการแข่งขัน อย่างไรก็ตามมันมีความแตกต่างที่น่าสังเกตบางประการ เช่น CEO มองว่าเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเปลี่ยนแปลงมากกว่าพนักงาน ซึ่งเบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้คือความจำเป็นที่ผู้นำต้องสื่อสารและมีส่วนร่วมกับพนักงานทุกกลุ่มในการสนทนาเกี่ยวกับเหตุผลที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง การดำเนินการที่บริษัทกำลังทำ รวมถึงผลกระทบต่อบทบาทและหน้าที่ของแต่ละคน

พนักงานบางคนดูเหมือนจะคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงไว้บ้างแล้ว 40% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ได้ใช้ GenAI ในปีที่ผ่านมากล่าวว่ามันจะเปลี่ยนแปลงวิชาชีพของพวกเขาอย่างสิ้นเชิงในเวลาไม่ถึง 5 ปี ผู้นำต้องมุ่งมั่นที่จะทำให้พนักงานทุกกลุ่มมีส่วนร่วมในวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตของบริษัท เพื่อให้ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงประสบความสำเร็จ

เมื่อพนักงานเข้าใจถึงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะมีส่วนร่วมและเชื่อมโยงกับเป้าหมายขององค์กรมากขึ้น ผู้นำต้องสื่อสารว่าเทรนด์ใหญ่ ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีกำลังปรับเปลี่ยนบริบททางธุรกิจอย่างไร และมันส่งผลเช่นไรต่อกลยุทธ์ของบริษัท จากนั้นจึงเชื่อมโยงสิ่งนั้นกับการเปลี่ยนแปลงที่พวกเขากำลังขอให้พนักงานทำ การสื่อสารที่ชัดเจนและบ่อยครั้งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้นำในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก CEO และผู้บริหารระดับสูงอื่น ๆ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญเทียบเท่ากันคือการสร้างแรงบันดาลใจและสร้างการมีส่วนร่วมให้กับพนักงานโดยแบ่งปันวิสัยทัศน์ของคุณเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทและบทบาทของพวกเขา เมื่อผู้คนรู้สึกตื่นเต้นและกระตือรือร้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิด พวกเขาจะมีแนวโน้มที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้นมากขึ้น อีกวิธีหนึ่งคือการมอบอำนาจให้กับพนักงาน โดยให้พวกเขานำเสนอและทดลองแนวคิดวิธีการทำงานใหม่ ๆ แนวทางที่นำโดยส่วนรวมนี้ต้องการการสนับสนุนและช่วยเหลือจากผู้นำระดับสูงเพื่อให้พนักงานรู้ว่าพวกเขาสามารถทำได้ การวางนวัตกรรมไว้ในมือของพนักงานให้โอกาสพวกเขาในการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง