fbpx
Inlps Remote working

5 เทรนด์ที่จะเปลี่ยนแปลงแรงงานยุคใหม่ในปี 2024

1024 576 admin
การทำงานสี่วันต่อสัปดาห์

สำหรับพนักงานหลาย ๆ คน หนึ่งในความฝันในการทำงานอาจกลายเป็นจริงในเร็ว ๆ นี้ เมื่อมีการคาดการณ์ว่าจะมีบริษัทจำนวนมากขึ้นที่นำระบบการทำงานสี่วันต่อสัปดาห์มาใช้ โดยมีการศึกษาจำนวนมากเกี่ยวกับบริษัทที่เริ่มทดลองใช้ระบบดังกล่าว เช่น เมื่อองค์กร 4 Day Week Global ได้ดำเนินโครงการนำร่องระบบการทำงานสี่วันต่อสัปดาห์ในสหราชอาณาจักร 92% ของบริษัทที่เข้าร่วมตัดสินใจที่จะดำเนินการต่อหลังจากช่วงทดลองสิ้นสุดลง และพนักงานกว่า 90% จากการทดลองของบริษัททั่วโลกที่ได้เข้าร่วมต้องการทำงานสี่วันต่อสัปดาห์ต่อไป แม้แต่รัฐบาลเองก็เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการหารือเรื่องนี้ด้วย โดยในประเทศเบลเยี่ยมพนักงานได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะทำงานครบหนงสัปดาห์ด้วยเวลาสี่วันโดยไม่มีการลดเงินเดือน
ผลประโยชน์หลักของสัปดาห์การทำงานที่สั้นลงคือพนักงานมีความสุขมากขึ้น ตัวชี้วัดเกี่ยวกับความเครียด ภาวะหมดไฟ ความเหนื่อยล้า และความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัวของพนักงานนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าฝ่ายบริหารอาจคิดว่าการทำงานสัปดาห์ละสี่วันจะทำให้ผลผลิตลดลง แต่มันกถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง โดยในปี 2019 Microsoft Japan ได้นำระบบการทำงานสี่วันต่อสัปดาห์มาใช้ และพบว่าผลผลิตเพิ่มขึ้นถึง 40% ดังนั้นในปี 2024 เราน่าจะได้เห็นบริษัทต่าง ๆ ที่ทดลองใช้ระบบการทำงานแบบนี้เพิ่มขึ้น

 

การจ้างงานโดยเน้นที่ทักษะ

ในปี 2024 จะมีบริษัทจำนวนมากขึ้นที่รับสมัครงานโดยเน้นที่ทักษะมาเป็นอันดับแรก และเปิดโอกาสใหม่ให้กับผู้สมัครที่เคยถูกมองข้ามเข้าสู่ตลาดแรงงาน วิธีการสรรหาบุคลากรนี้เน้นที่ทักษะและความสามารถของบุคคล ไม่ใช่วุฒิการศึกษาหรือตำแหน่งงานก่อนหน้า เมื่อปี 2022 ผู้จัดหางานมากถึง 40% บน LinkedIn กล่าวว่าพวกเขาใช้ทักษะเป็นปัจจัยสำคัญในการเติมเต็มตำแหน่งงานที่ว่างอยู่
การนำแนวทางการจ้างงานด้วยทักษะมาใช้สามารถยกระดับความแข็งแกร่งของกลุ่มผู้ที่มีความสามารถของบริษัท รวมถึงช่วยลดปัญหาการขาดแคลนทักษะได้ในเวลาเดียวกัน บริษัทเช่น Accenture, EY, Google, PwC และอื่น ๆ ได้ยกเลิกข้อกำหนดการสมัครงานตามวุฒิการศึกษาสำหรับหลาย ๆ ตำแหน่งเพื่อเอาชนะปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพ เมื่อนายจ้างจำนวนมากนำแนวทางนี้ไปใช้ โอกาสในการจ้างงานจะขยายไปสู่ผู้สมัครที่ไม่ได้ดำเนินเส้นทางอาชีพแบบดั้งเดิมมากขึ้น

 

กฎหมายกำกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เข้มงวดมากขึ้น

แม้ว่า AI จะยังไม่หายไปในเร็ววันนี้ แต่การเติบโตอย่างรวดเร็วและปราศจากการควบคุมอาจจะสิ้นสุดลงในปี 2024 กฎหมาย AI Act ของสหภาพยุโรปเป็นกฎหมายที่ครอบคลุมเรื่องปัญญาประดิษฐ์ฉบับแรกของโลก ซึ่งคาดว่าจะมีกฎหมายอื่น ๆ ตามมาอีก ผู้บริหารเทคโนโลยีชั้นนำของโลกรวมถึง Bill Gates และ Geoffrey Hinton ได้ลงนามในแถลงการณ์เกี่ยวกับการกำกับดูแลเรื่อง AI ว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนระดับโลก ล่าสุด ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Joe Biden ได้ออกคำสั่งที่กำหนดมาตรฐานชุดแรกสำหรับเทคโนโลยี AI ตัวอย่างเช่น ผู้พัฒนาจะต้องเปิดเผยข้อมูลการทดสอบความปลอดภัยของตนเอง และจะมีมาตรการคุ้มครองเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้ AI สร้างวัสดุชีวภาพที่มีอันตราย
จากความคืบหน้าเหล่านี้ บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องติดตามกฎหมายที่เกี่ยวกับ AI ล่าสุด และสร้างกระบวนการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเพื่อให้แน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดตลอดปี 2024 และต่อไปในอนาคต

 

ความยืดหยุ่นในอาชีพ

ปี 2024 จะเป็นปีที่ผู้นำอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับเส้นทางอาชีพของพนักงาน ในตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูงอย่างในปัจจุบัน บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องเสนอสิ่งตอบแทนที่มากกว่าการขึ้นเงินเดือนเพื่อรักษาพนักงานคนสำคัญ หนึ่งในวิธีการทำเช่นนั้นคือการสนับสนุนเป้าหมายด้านอาชีพของพนักงาน รายงาน Ceridian Pulse of Talent ระบุว่า 51% ของพนักงานที่คิดจะลาออกจากนายจ้างปัจจุบันอาจพิจารณาที่จะอยู่ต่อหากมีโอกาสเปลี่ยนเส้นทางอาชีพ แต่ตามข้อมูลของ WTW มีเพียง 36% ของบริษัทเท่านั้นที่ได้วางแผนและสื่อสารเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพให้กับพนักงานอย่างชัดเจน ดังนั้นปี 2024 จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะโฟกัสไปที่การวางแผนหรือพูดคุยปรับเปลี่ยนเรื่องเส้นทางอาชีพสำหรับพนักงานทุกคน

 

การเติบโตของรูปแบบการทำงานแบบผสมผสาน

รูปแบบการทำงานแบบผสมผสานซึ่งพนักงานแบ่งเวลาทำงานระหว่างออฟฟิศและการทำงานระยะไกล มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นรูปแบบหลักในปี 2024 การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่การทำงานระยะไกล และมีบริษัทจำนวนมากได้นำรูปแบบการทำงานแบบผสมผสานหรือยืดหยุ่นมาใช้ตามการสำรวจของ Accenture พบว่า 63% ของบริษัทที่มีการเติบโตสูงได้นำรูปแบบการทำงานจากทุกที่ มาใช้ โดยการทำงานแบบผสมผสานสามารถช่วยเพิ่มความพึงพอใจของพนักงาน ปรับปรุงสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน รวมถึงขยายฐานทรัพยากรบุคคลโดยการอนุญาตให้บริษัทสามารถจ้างพนักงานระยะไกลได้
อย่างไรก็ตาม การนำรูปแบบการทำงานแบบผสมผสานที่มีประสิทธิภาพมาใช้จำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ รวมถึงมีการลงทุนในเทคโนโลยี เครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกัน และวัฒนธรรมองค์กรที่เหมาะสม บริษัทจะต้องออกแบบพื้นที่สำนักงานใหม่ ปรับปรุงนโยบายด้านทรัพยากรบุคคล และจัดการฝึกอบรมที่เพียงพอให้กับผู้จัดการที่ดูแลทีมแบบผสมผสาน การหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างวันทำงานที่ออฟฟิศและวันทำงานระยะไกลจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาประสิทธิภาพ ความมีส่วนร่วมของพนักงาน และวัฒนธรรมองค์กร
เนื่องจากพนักงานคาดหวังความยืดหยุ่นมากขึ้น รูปแบบการทำงานแบบผสมผสานจึงมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นวิธีการทำงานปกติรูปแบบใหม่สำหรับองค์กรจำนวนมากในหลากหลายอุตสาหกรรมในปี 2024 และต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published.