หัวหน้าที่ดีสามารถสร้างความแตกต่างในที่ทำงานได้อย่างมหาศาล

หัวหน้าที่ดีสามารถสร้างความแตกต่างในที่ทำงานได้อย่างมหาศาล

นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมีความเห็นเพิ่มขึ้นในแนวคิดที่ว่าคุณภาพของงานนั้นมีความสำคัญพอ ๆ กับปริมาณ Dani Rodrik อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่ Harvard เชื่อว่าหนึ่งใน “ปัญหาพื้นฐานของระบบทุนนิยมร่วมสมัย” คือ “ความล้มเหลวในการผลิตงานดี ๆ ในจำนวนที่มากพอ”

โดยเขาเห็นหลักฐานที่สนับสนุนความคิดนี้จากการเกิดตลาดแรงงานสองขั้ว (Job Polarization) ความเหลื่อมล้ำทางภูมิศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และความมั่นคงของงานที่ลดลง

Daron Acemoglu อาจารย์จาก MIT ให้เหตุผลว่า “ไม่มีสังคมมนุษย์ใดที่สร้างความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันด้วยการกระจายรายได้ (Redistribution) เพียงอย่างเดียว แต่เป็นงานที่ดีต่างหากที่ทำให้ผู้คนมีจุดมุ่งหมายและมีความหมายในการใช้ชีวิต”

อะไรทำให้ผู้คนมีความสุขในการทำงาน?

นักเศรษฐศาสตร์ไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่สนใจในเรื่องนี้ นายจ้างที่ประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานก็ต้องการทราบวิธีที่จะทำให้ผู้คนมีความสุขในการทำงาน แต่อะไรที่ทำให้งานนั้นเรียกว่าดี นักวิจัยได้ให้คำจำกัดความไว้หลายรูปแบบตามข้อมูลการสำรวจจำนวนมาก

การศึกษาหนึ่งจากยุโรปสรุปว่า “งานที่มีคุณภาพอาจต้องการทรัพยากรมากและมีความท้าทายสูง รวมถึงมีค่าตอบแทน ความมั่นคงในการทำงาน และโอกาสในการพัฒนาสูง”

ในทำนองเดียวกัน มีการรวบรวมข้อมูลจากผู้คนบน Twitter โดยให้พูดเกี่ยวกับงานที่พวกเขารัก เรื่องราวที่ได้นั้นมีตั้งแต่การทำงานในช่วงเช้าที่เร่งรีบที่ร้านขายโดนัทแบบ Drive-Through ไปจนถึงการชมภาพยนตร์เพื่อตัดสินใจว่าพวกมันควรได้รับการจำกัดอายุอย่างไร

ข้อมูลนั้นเหล่านั้นมาจากอาชีพต่าง ๆ ที่หลากหลาย ทั้งอาจารย์ ช่างก่อสร้าง แคชเชียร์ในซูเปอร์มาร์เก็ต ช่างไฟฟ้า และนักวิชาการ

บางคนให้คุณค่ากับสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคนอื่นโดยสิ้นเชิง มีนักข่าวที่พูดถึงการทำงานต่างประเทศช่วงวิกฤตในเอเชียว่า “ทุกสิ่งที่เห็นหรือได้ยินบนท้องถนนนั้นล้วนแต่มีความหมาย เหมือนกับว่ากำแพงที่มองไม่เห็นรอบ ๆ การทำงานจะหายไป”

กลับกันบางคนก็ชอบงานที่กำแพงเหล่านั้นไม่ยอมให้อะไรผ่านเข้าไปได้และกล่าวว่า “ผมไม่นำงานกลับบ้านไปด้วย ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องงานเมื่ออยู่ที่บ้าน” บางคนรักงานเพราะมันเป็นงานอดิเรกหรือสิ่งที่ตัวเองหลงใหล อีกคนพบความสุขจากเพื่อนร่วมงานที่สนุกสนานในงานที่จริง ๆ แล้วอาจจะน่าเบื่อ

เป็นเรื่องยากที่จะวัดงานที่ดี

ข้อสรุปที่ชัดเจนประการหนึ่งคือ งานที่แตกต่างกันนั้นเหมาะสมกับผู้คนที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัยของชีวิต งานที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้าและได้เงินเพียง 3 ปอนด์ต่อชั่วโมง อาจไม่สำคัญสำหรับบางคนในช่วงวัยรุ่น แต่อาจมีความหมายกับอีกคนที่ต้องจ่ายค่าเช่าและมีภาระอื่น ๆ

นั่นเป็นความท้าทายสำหรับนักวิชาการที่ต้องการนิยามและวัดปริมาณ “งานที่ดี” ในระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี มีเรื่องหนึ่งที่เชื่อมโยงเรื่องราวของผู้คนมากมายเกี่ยวกับงานที่พวกเขารัก นั่นคือเจ้านายที่ดีที่ให้อิสระและ “สนับสนุน” พวกเขา

งานวิจัยยืนยันถึงความสำคัญของการจัดการที่ดี การศึกษาจากสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับ NHS Trust พบว่าหน่วยงานที่มี “แนวทางปฏิบัติในการจัดการผู้คน” ที่ดี เช่น ผู้จัดการที่ให้การสนับสนุน มีแนวโน้มที่จะทำให้พนักงานมีความสุข ระดับการขาดงานน้อยลง และผู้ป่วยได้รับความพึงพอใจ

การวิจัยโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าคะแนนการปฏิบัติงานด้านการจัดการและประสิทธิภาพของแรงงานมีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่นายจ้างในสหราชอาณาจักรลงทุนเพียงเล็กน้อยในสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก

ผลสำรวจของรัฐบาลเมื่อกลางปี ​​2017 พบว่ามีนายจ้างเพียง 2 ใน 3 เท่านั้นที่จัดการฝึกอบรมให้กับพนักงานในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยมีเพียง 35 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ให้การฝึกอบรมด้านการจัดการ กลุ่มอาชีพ “ผู้จัดการ” มีแนวโน้มน้อยที่สุดที่จะได้รับการฝึกอบรมในช่วง 12 เดือนก่อนทำการสำรวจ และเป็นกลุ่มเดียวที่มีผู้ได้รับการฝึกอบรมน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง

นโยบายองค์กรมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์

แน่นอนว่าการฝึกอบรมไม่ใช่ทุกอย่าง หัวหน้างานยังต้องได้รับอำนาจในการตัดสินใจ เวลา และความไว้วางใจเพื่อให้สามารถจัดการทีมของตนได้ดี นโยบายหรือเป้าหมายขององค์กรบางอย่างอาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์เหล่านี้

ตัวอย่างเช่น ระบบประเมินผลการปฏิบัติงานที่บังคับให้ผู้จัดการต้องแบ่งทีมของตนออกเป็นผู้ที่มีความสามารถสูง กลาง หรือต่ำ ตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ เปลี่ยนเพื่อนร่วมงานให้กลายเป็นคู่แข่งและเปลี่ยนหัวหน้าเป็นศัตรู

ซอฟต์แวร์ที่ตรวจสอบหรือประเมินคนงานสามารถทำลายความไว้วางใจระหว่างหัวหน้ากับพนักงานได้ในทำนองเดียวกัน แต่ข่าวดีสำหรับนายจ้างคือ คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินจำนวนมากหรือเสนอผลตอบแทนที่ดีที่สุดเพื่อเป็นสถานที่ทำงานที่ดี

ส่วนข่าวร้ายก็คือ หากคุณดำเนินกิจการโดยที่มองข้ามหรือถึงขนาดให้รางวัลแก่ผู้จัดการที่ไม่ดี ไม่ว่าผลตอบแทนหรือมาตรการมากแค่ไหนก็ไม่สามารถแก้ไขได้