fbpx

‘สิงคโปร์’ ก้าวสู่ยุค 5G ดินแดนเทคโนฯล้ำสมัย ไร้ขีดจำกัด

150 150 Content Writer

ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์และพันธมิตรทางธุรกิจ เตรียมขยายเครือข่าย 5G เป็นครั้งแรก โดยผู้ให้บริการ 5G ประเมินว่า การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม โดยเฉพาะการเชื่อมต่อระบบไร้สาย สะท้อนถึงความพร้อมของการใช้งาน Internet of Things (IoT) และการพัฒนาเมืองสิงคโปร์ให้เป็น Smart City นอกจากนี้การให้บริการ 5G ที่ครอบคลุมทั้งเกาะสิงคโปร์ ช่วยให้นักการตลาดทำงานได้สะดวกขึ้น

งานวิจัยจาก World Economic Forum ระบุว่า 5G ช่วยให้มูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และนอกจากการพัฒนาเครือข่าย 5G จะช่วยเพิ่มการขยายตัวของธุรกิจแล้ว ในด้านการพัฒนาสังคม 5G ทำให้เกิดความยั่งยืนในชุมชนอีกด้วย

Alex Woodford รองประธานและหุ้นส่วนลูกค้า ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก Essence ระบุกับ The Drum ว่า การพัฒนาเทคโนโลยี 5G เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ประกอบการและผู้บริโภคในสิงคโปร์ แม้ว่าการให้บริการในระยะเริ่มต้นยังไม่ครอบคลุมทั่วพื้นที่เกาะก็ตาม แต่ผู้ที่อยู่ในพื้นที่การพัฒนา 5G สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพ จากการเชื่อมต่อเทคโนโลยี ส่งผลให้เกิด Flow ของ Big Data

 

“ประโยชน์ของการพัฒนา 5G ในมุมของผู้บริโภค สามารถใช้ความเร็วอินเตอร์เน็ตได้เพิ่มขึ้น เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มประสบการณ์จากการใช้เทคโนโลยีความเร็วสูง ส่วนในแง่ธุรกิจ 5G ช่วยเพิ่มประสิทธิการผลิต และการใช้ระบบ Automation เพื่อเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ”

 

นอกจากนี้ Woodford ยังกล่าวอีกว่า ถ้าเปรียบเทียบโครงสร้างธุรกิจเป็นฮาร์ดแวร์ เทคโนโลยี 5G เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงจรวดที่ช่วยเพิ่มการเติบโตอย่างก้าวกระโดด นอกจากความเร็วของเทคโนโลยีแล้ว 5G ยังช่วยสนับสนุนการเพิ่มความซับซ้อนในการผลิต การเก็บ Data ของธุรกิจ ตั้งแต่ภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงภาคบริการ ซึ่งถือเป็น Ecosystem ที่เหมาะสมในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในโลกยุคใหม่

 

สิ่งที่นักการตลาดและนักโฆษณาจะได้รับประโยชน์ทันที เมื่อมีการเชื่อมโยงระหว่างอุตสาหกรรม

อันดับแรกเทคโนโลยี 5G ช่วยยกระดับการพัฒนาสื่อ ซึ่งจะเห็นว่าการเข้าถึงสื่อมีความน่าสนใจมากขึ้น จากการเพิ่มรูปแบบที่ซับซ้อนในการนำเสนอสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ผ่าน VR และ AR โดยตัวอย่างของการใช้งาน 5G จริง เช่นสตูดิโอ 5G ของ Verizon ใน Los Angeles และ London ที่กำลังทดลองใช้เทคโนโลยี 5G

ทางสตูดิโอใช้การนำเสนอ Live-Streaming ในรูปแบบ 3 มิติ การส่งข้อมูลแบบ Real Time การจับภาพโดยการจำลองแบบ 3 มิติ หรือ Volumetric Capture ทั้งนี้ภายหลังการทดสอบการใช้งานในสหรัฐสำเร็จ ทาง Verizon มีแผนเปิดตัวการใช้งานเทคโนโลยี 5G ในสิงคโปร์อีกด้วย นอกจากนี้ 5G จะทำให้การจำลองเทคโนโลยีใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น จากกการประมวลผลข้อมูลที่แม่นยำและรวดเร็ว ช่วยนักการตลาดและนักโฆษณาวางแผนพัฒนากลยุทธ์ได้สะดวกมากขึ้น

ส่วนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว Lim ระบุว่า ภาคการท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์โดยตรงจากการใช้ AR และ VR ในการเพิ่มประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้การใช้ 5G จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับการท่องเที่ยว โดยผู้ประกอบการสามารถออกแบบการท่องเที่ยวให้เหมาะกับนักท่องเที่ยวแต่ละบุคคลได้

 

“ก่อนที่จะจองที่พักหรือตั๋วเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถใช้ AI โดยการเชื่อมต่อด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง ใช้ AI ช่วยจำลองการใช้ชีวิตในห้องพัก หรืออื่น ๆ ที่นักท่องเที่ยวต้องการตรวจสอบให้แน่ใจ ก่อนจองสถานที่ ดังนั้นการใช้ 5G จึงช่วยให้การจำลองเทคโนโลยีใกล้กับความเป็นจริงมากขึ้น” Lim กล่าว

 

การใช้ AI เพื่อจำลองการเดินทาง ทำให้การท่องเที่ยวมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งการพัฒนาการท่องเที่ยวใน Barcelona ได้เปิดตัวโครงการ 5G Augmented Tourism หรือโครงการที่ใช้ 5G ในการพัฒนา Location และบริการนักท่องเที่ยว เพื่อแก้ปัญหาเดิม ๆ เช่น การหลงทาง ข้อมูลท่องเที่ยวที่ไม่อัพเดต เป็นต้น

ขณะเดียวกันในธุรกิจ eSports เทคโนโลยี 5G มีบทบาทอย่างยิ่ง เพราะการใช้ AR ช่วยให้ผู้รับชมสามารถชม eSports ได้ 360 องศา นอกจากนี้การพัฒนา 5G ในปัจจุบันถูกนำไปใช้ในสเตเดี้ยม อีเว้นท์และพื้นที่สำหรับการกีฬาอื่น ๆ

ตามที่ Charlie Baillie ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่าย Commercial ของ Ampverse กล่าวว่า เทคโนโลยี 5G ถือเป็นการปลดล็อคโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ โดยการโฆษณาในรูปแบบ VR และ AR ช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ มีลูกเล่นทางการตลาดที่น่าสนใจในสายตาผู้บริโภค และมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น

 

 

The New Normal

การทำงานจากที่บ้านหรือ Work from Home กลายเป็น New Normal ในช่วงที่ Covid-19 กำลังระบาด โดยสถานการณ์บังคับให้คนใช้ Wi-fi มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Wi-fi จากบ้านหรือสาธารณะก็ตาม ทำให้ความจำเป็นที่ต้องพึ่งระบบอินเตอร์เน็ตในช่วงการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 เช่นนี้ การวางโครงสร้างพื้นฐาน 5G จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากการใช้เครือข่ายมากขึ้น

 

“การประชุมทางวิดีโอ เช่น ผ่าน Google Hangouts, Google Meets แม้จะได้รับความนิยมมากขึ้นในยุค New Normal แต่การประชุม Video conference เป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว ซึ่งประโยชน์ของการพัฒนา 5G จะช่วยให้ระบบการสื่อสารเหล่านี้ราบรื่นมากขึ้น” Essence ระบุ

 

ความล่าช้าหรืออุปสรรคของระบบโครงข่ายที่ส่งผลต่อการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะค่อย ๆ ลดไป ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนา 5G ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในการใช้บริการมากขึ้น และไม่ต้องกังวลข้อจำกัดในแง่กฎหมาย อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของ Covid-19 เปลี่ยนวิธีการทำงานรูปแบบเดิม และไม่มีใครยืนยันได้ว่าเมื่อโรคระบาดหมด โลกหลัง Covid-19 ทุกอย่างจะกลับไปเหมือนเดิม

โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ 5G มีบทบาทในการเชื่อมต่อเครือข่าย ตามที่ปัจจุบันสามารถเชื่อม Video Conference ได้มากกว่า 1,000 อุปกรณ์ได้พร้อมกัน นอกจากนี้ยังช่วยให้การประชุมออนไลน์มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น เช่น การออกแบบภาพพื้นหลังสำนักงาน, การนำเสนอ Presentation แบบ 3 มิติ, การแสดงผลแบบเรียลไทม์, การนำเสนอแบบ AR และ VR, การทำ Holographic Projections นอกจากนี้จุดเด่นอีกข้อคือ ผู้เข้าร่วมประชุม สามารถโต้ตอบการประชุม หรือมีส่วนร่วมได้แบบเรียลไทม์เช่นกัน

ทั้งนี้นโยบาย Circuit Breaker ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกนำมาใช้หลังการแพร่ระบาดของ Covid-19 โดยเฉพาะประเด็นความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะเป็นแผนระยะยาวขององค์กร การพัฒนา 5G จะเป็นองค์ประกอบสำคัญ และจะได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นในตลาดสิงโปร์ ทั้งผู้ประกอบการ นักการตลาด และผู้บริโภค

 

ติดตามช่องทางสำหรับรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม ได้ที่ 

Youtube: Interloop Solutions & Consultancy
Author

Content Writer

All stories by: Content Writer

Leave a Reply

Your email address will not be published.