fbpx

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Generative AI (ตอนที่ 2)

1024 576 admin

ตัวอย่างการใช้งาน Generative AI

Generative AI ซึ่งมีความสามารถในการผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ได้กลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่การยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าไปจนถึงการบุกเบิกความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ต่อไปนี้คือตัวอย่างของการนำไปใช้งานบางส่วนรวมถึงอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบในอนาคต

Chatbot สำหรับการบริการลูกค้า: แชทบอสามารถสร้างการตอบสนองต่อคำถามของผู้ใช้งานโดยคำนึงถึงบริบทได้เหมือนกับมนุษย์แทนที่จะอาศัยชุดคำตอบที่ตั้งโปรแกรมไว้ตายตัว ส่งผลให้ได้รับประสบการณ์การสนทนาที่ลื่นไหลและเป็นธรรมชาติมากขึ้น การค้าปลีก การเงิน การดูแลสุขภาพ การบริการ และอื่น สามารถใช้งานแชทบอทขั้นสูงเพื่อปรับปรุงการโต้ตอบกับลูกค้า ลดเวลาการรอคอย และให้การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง

Deepfake และการผลิตสื่อ: Generative AI สามารถสร้างหรือแก้ไขวิดีโอให้ดูเหมือนว่าบุคคลกำลังพูดหรือทำสิ่งที่พวกเขาไม่เคยทำ แม้ว่าอุตสาหกรรมบันเทิงจะสามารถใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ การตัดต่อ และการพากย์เสียงได้ แต่ก็มีข้อกังวลด้านจริยธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการใช้งานอย่างมุ่งร้ายในบริบททางการเมืองหรือสังคม

ศิลปะและการออกแบบเสมือนจริง: Generative AI สามารถสร้างงานศิลปะ การออกแบบ หรือภาพที่มักจะแยกไม่ออกจากที่มนุษย์สร้างขึ้นศิลปิน นักออกแบบกราฟิก และผู้โฆษณาสามารถใช้ภาพที่สร้างโดย AI เหล่านี้สำหรับแคมเปญโฆษณา การออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือการติดตั้งงานศิลปะดิจิทัล

การค้นคว้าและวิจัยยา: Generative AI สามารถวิเคราะห์โครงสร้างโมเลกุลที่ซับซ้อนและคาดการณ์สารประกอบยาใหม่ที่อาจมีประสิทธิภาพในการรักษาโรค ภาคเภสัชกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพจะได้รับประโยชน์อย่างมาก อาจช่วยลดเวลาและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการค้นคว้าแบบดั้งเดิมได้

การออกแบบผลิตภัณฑ์: Generative AI สามารถระดมความคิดและเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น เพิ่มความทนทานสูงสุดในขณะที่ลดการใช้วัสดุให้เหลือน้อยที่สุดอุตสาหกรรมยานยนต์ การบินและอวกาศ และแฟชั่นใช้ประโยชน์จาก Generative AI ในการสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่มีประสิทธิภาพและสวยงาม

การประพันธ์ดนตรีและการออกแบบเสียง: Generative AI สามารถสร้างเพลงหรือเสียงขึ้นใหม่โดยการเรียนรู้รูปแบบและโครงสร้างของข้อมูลเสียงเดิมที่มีอยู่ นักดนตรี ผู้ผลิตภาพยนตร์ และผู้พัฒนาเกมสามารถใช้เสียงหรือองค์ประกอบที่สร้างโดย AI เพื่อปรับปรุงโปรเจกต์ของตนหรือสร้างประสบการณ์การฟังที่ไม่เหมือนใคร

การสร้างข้อความและคอนเทนต์: Generative AI สามารถร่างบทความ เขียนบทกวี หรือสร้างเรื่องเล่าตามเงื่อนไขที่กำหนด อุตสาหกรรมสื่อ สิ่งพิมพ์ และการศึกษาสามารถใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อสร้างคอนเทนต์ ช่วยเหลือผู้เขียน หรือสร้างสื่อการเรียนรู้

เกมและโลกเสมือนจริง: Generative AI สามารถออกแบบเกม ตัวละคร หรือแม้แต่โลกเสมือนจริงทั้งหมด มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่มีเอกลักษณ์และมีชีวิตชีวาให้กับผู้ใช้งาน อุตสาหกรรมเกม นักพัฒนา VR/AR และผู้สร้างซอฟต์แวร์จำลองสถานการณ์สามารถใช้ประโยชน์จาก Generative AI เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและการเข้าถึงบทบาทของผู้ใช้

 

ความกังวลเกี่ยวกับ Generative AI

ความสามารถที่ไม่เคยมีมาก่อนของ Generative AI ในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ นั้นเป็นทั้งเรื่องที่น่ามหัศจรรย์และเป็นที่มาของความวิตกกังวลสำหรับหลาย ๆ คน เช่นเดียวกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำอื่น มันมีข้อกังวลด้านจริยธรรม สังคม และความปลอดภัย ที่อาจเกิดขึ้นดังต่อไปนี้

ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและทำให้เข้าใจผิด: Generative AI สามารถสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลที่มีข้อบกพร่อง โดยอาจส่งผลเสียร้ายแรงในบริบทเช่น คำแนะนำทางการแพทย์ คำแนะนำทางการเงิน หรือคอนเทนต์ด้านการศึกษา ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจหรือความเข้าใจผิดที่เป็นอันตราย

การส่งเสริมการลอกเลียนแบบ: เนื่องจาก AI สามารถสร้างข้อความ งานศิลปะ หรือเพลงที่คล้ายกับผลงานที่มีอยู่แล้วออกมาได้เป็นจำนวนมาก จึงมีความเสี่ยงที่จะสร้างเนื้อหาที่คัดลอกหรือเลียนแบบงานที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เกิดข้อกังวลเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาและอาจถูกมองว่าเป็นการทำลายคุณค่าของการสร้างสรรค์งานต้นฉบับที่อาจนำไปสู่ข้อพิพาททางกฎหมายได้

เปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจในปัจจุบัน: การสร้างคอนเทนต์แบบอัตโนมัติอาจลดความต้องการของผู้สร้างงานที่เป็นมนุษย์ในด้านต่าง ๆ เช่น วารสารศาสตร์ การออกแบบ และศิลปะ การสูญเสียงานและการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาจเกิดขึ้น ทำให้คนงานจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทักษะและบทบาทการทำงานแบบดั้งเดิม

การสร้างข่าวปลอมและการโฆษณาชวนเชื่อ: ความสามารถของ AI ในการสร้างเรื่องราวที่ดูน่าเชื่อถือสามารถนำไปใช้เพื่อสร้างเรื่องราวข่าวปลอม วิดีโอที่ผ่านการตัดต่อ หรือการบันทึกเสียงที่ดัดแปลงได้ สิ่งนี้สามารถบิดเบือนความคิดเห็นของประชาชน แทรกแซงการเลือกตั้ง และทำให้ความแตกแยกในสังคมรุนแรงขึ้น การแยกแยะความจริงจะเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นสำหรับสาธารณชนทั่วไป

การอำนวยความสะดวกในการโจมตีทางไซเบอร์: Generative AI สามารถใช้ในการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่ซับซ้อน สร้างอีเมลหรือข้อความปลอมที่เป็นส่วนตัวและน่าเชื่อถือเพื่อหลอกลวงผู้ที่ได้รับ เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการละเมิด การโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว และการฉ้อโกงได้ ทำให้ความปลอดภัยทางไซเบอร์กลายเป็นข้อกังวลเร่งด่วน

Deepfake และการบิดเบือนข้อมูลระบุตัวตน: เทคโนโลยี Deepfake สามารถสร้างวิดีโอของบุคคลที่พูดหรือทำในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยให้ดูสมจริงขึ้นได้ สิ่งนี้สามารถนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การทำลายชื่อเสียง แบล็กเมล์ หรือการฉ้อโกง ผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออาจพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะหักล้างหลักฐานที่ถูกปลอมแปลงด้วยวิธีดังกล่าว

การพึ่งพาเนื้อหาอัตโนมัติมากเกินไป: หากธุรกิจหรือบุคคลพึ่งพาคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI มากเกินไป อาจส่งผลให้งานนั้นสูญเสียความรู้สึก ความคิดสร้างสรรค์ และบริบทของความเป็นมนุษย์ไป สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เนื้อหาที่มีลักษณะเดียว ปราศจากความแตกต่างทางวัฒนธรรมหรือความเห็นอกเห็นใจของมนุษย์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกแปลกแยก

ประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรม: Generative AI อาจสร้างเนื้อหาที่รุนแรง มีอคติ หรือไม่เหมาะสมเนื่องจากมีข้อบกพร่องในข้อมูลสำหรับการฝึก ผลลัพธ์จากข้อมูลดังกล่าวอาจก่อให้เกิดทัศนคติแบบเหมารวม ความโกรธเคืองต่อสาธารณะ และเป็นอันตรายต่อชื่อเสียงขององค์กรที่ใช้เทคโนโลยี

ข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล: โมเดลสำหรับการฝึก AI มักต้องใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งมีความเสี่ยงในการใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในทางที่ผิดหรือไม่ได้รับอนุญาต ความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคลอาจถูกรุกล้ำ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาความไว้วางใจกับผู้ให้บริการเทคโนโลยี

 

Generative AI กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอย่างไร

ในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ Generative AI ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างแผนการรักษาเฉพาะแต่ละบุคคล พัฒนาตัวยาใหม่ และปรับปรุงความแม่นยำของการวินิจฉัยโรค ตัวอย่างเช่น ใช้ในการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์เพื่อระบุเนื้องอกหรือความผิดปกติอื่น ๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อสร้างข้อมูลสังเคราะห์สำหรับฝึกโมเดลการเรียนรู้ของเครื่อง ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงความแม่นยำของการวินิจฉัยและการรักษาโรคได้

ในอุตสาหกรรมการผลิตมีการใช้งาน Generative AI เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต และปรับปรุงการควบคุมคุณภาพ ตัวอย่างเช่น ใช้สร้างโมเดล 3 มิติของผลิตภัณฑ์สำหรับจำลองการทำงานจริงได้ สิ่งนี้สามารถช่วยระบุข้อบกพร่องในการออกแบบที่อาจเกิดขึ้นและปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของผลิตภัณฑ์

ในอุตสาหกรรมการเงิน Generative AI สามารถนำไปใช้สร้างแบบจำลองทางการเงิน ตรวจจับการฉ้อโกง และปรับแต่งพอร์ตการลงทุนส่วนบุคคล ตัวอย่างเช่น ใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินในอดีตเพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้มต่าง ๆ ซึ่งจะถูกนำไปใช้สร้างแบบจำลองทางการเงินที่สามารถช่วยคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคตได้

ในอุตสาหกรรมค้าปลีก Generative AI กำลังถูกนำมาใช้ในการสร้างคำแนะนำเฉพาะบุคคล เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงคลัง และปรับปรุงการให้บริการลูกค้า ตัวอย่างเช่น ใช้วิเคราะห์ประวัติการซื้อของลูกค้าเพื่อระบุผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาน่าจะสนใจ จากนั้นนำมาใช้เพื่อสร้างคำแนะนำส่วนบุคคลที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้

ในอุตสาหกรรมสื่อและความบันเทิงมีการใช้งาน Generative AI ในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ ทั้งรูปภาพ วิดีโอ และเพลง ตัวอย่างเช่น ใช้เพื่อสร้างภาพที่สมจริงของผู้คนและวัตถุซึ่งสามารถนำไปใช้ในภาพยนตร์และรายการทีวี นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อปรับแต่งประสบการณ์เฉพาะสำหรับผู้ใช้แต่ละคนโดยการแนะนำภาพยนตร์หรือรายการทีวีที่ผู้ใช้น่าจะชื่นชอบ รวมถึงใช้เพื่อสร้างเพลงที่ปรับให้เหมาะกับความชอบส่วนบุคคลของผู้ใช้ได้อีกด้วย

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ Generative AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยเหลือผู้คนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในขณะที่เทคโนโลยียังคงพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง เราคาดหวังว่าจะได้เห็นการใช้งาน Generative AI ที่เป็นนวัตกรรมและแปลกใหม่มากยิ่งขึ้นในปีต่อ ๆ ไป

Leave a Reply

Your email address will not be published.